954 จำนวนผู้เข้าชม |
สองสามวันที่ผ่านมา มีหุ้นบางตัวถูกให้หยุดการซื้อขายหรือถูก SP 1 วัน เพราะราคาหุ้นมีการปรับขึ้นมาก "ผิดปกติ" เข้าข่ายเป็นหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูงผิดปกติที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออกกฎเกณฑ์หลายข้อ และหลายระดับ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเก็งกำไรมากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้ราคาหุ้นขึ้นเกินพื้นฐานไปมาก จนอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนได้ เกณฑ์ที่ใช้นั้นมีหลายข้อ เริ่มตั้งแต่การดูปริมาณการซื้อขาย และราคาหุ้นที่ "แพงเกินไป" วัดจากกำไรของบริษัท เทียบกับตัวชี้วัดเช่นค่า P/E เป็นต้น และก็คงมีอย่างอื่นอีกที่ผมเองก็ไม่ได้ศึกษาติดตามมากนัก และเมื่อมีหุ้นที่เข้าเกณฑ์แล้ว ก็จะถูกเพิ่มเงื่อนไขในการซื้อขายเช่น ห้ามใช้มาร์จิน ต้องวางเงินสดเต็มจำนวน อะไรทำนองนี้ และสุดท้ายที่เป็น "มาตรการสูงสุด" เนื่องจากหุ้นอาจจะมีราคา "แพงสูงสุด" หรือเก็งกำไรสูงสุดไปแล้วก็คือการ "หยุดการซื้อขาย 1 วัน" ดังกล่าว
หลังจากการหยุดพักการซื้อขาย 1 วัน ดูเหมือนว่าราคาหุ้นไปได้ปรับลงเลย แต่กลับปรับขึ้นไปมากยิ่งกว่าเดิม ซึ่งก็หมายความว่ามาตรการในการ "ลดการเก็งกำไร” ไม่ได้ผลเลย แต่อาจจะยิ่งเพิ่มการเก็งกำไรขึ้นไปอีก ผมเองดูแล้วก็รู้สึกว่าเป็นมาตรการที่ "เบามาก" คล้ายๆ กับคนทำผิดคดีข่มขืนแต่ถูกลงโทษตีก้นหนึ่งที และผมเองก็ไม่เข้าใจว่าการให้หยุดการซื้อขาย 1 วันนั้นจะทำให้คนคิดคำนึงว่ามันเป็นหุ้นเก็งกำไรที่นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงได้อย่างไร ว่าที่จริงคนอาจจะยิ่งคิดว่านี่คือหุ้นที่จะเก็งกำไรกันรุนแรงขึ้น และเขาอาจจะชอบที่จะเล่นเพิ่มขึ้น เพราะมันเหมือนเป็น "สป็อตไล้ท์” ส่องให้หุ้นเด่นขึ้น และเรียกให้คนเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้นด้วยซ้ำ
ผมเองไม่รู้ว่า หลังจากการหยุดซื้อขายหุ้น 1 วันไปแล้ว จะมีมาตรการอะไรอีกไหม ถ้าไม่มี ก็แสดงว่าหุ้นคงสามารถแสดงอภินิหารต่อไปได้เรื่อยๆ จนวันหนึ่งอาจมีขนาดเป็นล้านล้านบาท และใหญ่ที่สุดในตลาดก็ได้ เพราะสำหรับผมแล้ว อาการของหุ้นที่ขึ้นไปแบบ "หลุดโลก” ได้นั้นก็คือหุ้นถูก "Corner” อย่างรุนแรง มีคนที่ถือหุ้น และพร้อมขายน้อยเกินไปในขณะที่คนซื้อนั้นคุมราคาหุ้นได้เบ็ดเสร็จ
และถ้าไม่แก้ปัญหานี้ อาจมีปัญหาตามมาและเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคต อาจมีหุ้นที่ถูก Corner อย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกวันนี้ก็มีหุ้นจำนวนมากถูก Corner อยู่แล้ว เพียงแต่อาจไม่รุนแรงเท่า และราคาหุ้นอาจแพงเกินไปซัก 3-4 เท่าจากราคาที่ควรจะเป็น และมูลค่าหุ้นอาจขึ้นไปในระดับแสนล้านหรือใกล้ๆ แสนล้านบาทเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตลาดหุ้นไทยก็จะเริ่ม "ขาดความน่าเชื่อถือ” ในแง่ที่ว่าราคาหุ้นจำนวนมาก "ไม่สะท้อนพื้นฐานของกิจการ" ที่ควรจะเป็น หรือเป็น "ตลาดเก็งกำไร" ที่คนที่ต้องการลงทุนระยะยาวไม่อยากเข้ามาลงทุน เพราะเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่ไม่สามารถประเมินได้
ถ้าถามว่า เราสามารถแก้ปัญหาการ Corner หุ้น หรือหุ้นถูก Corner ได้ไหม ผมคิดว่าพอทำได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็แก้ปัญหาหุ้นที่ถูก Corner รุนแรงได้แน่ ถ้าตั้งใจจะทำ แต่การ Corner แบบเบาๆ นั้นอาจจะยาก เนื่องจาก "โครงสร้างของหุ้นและตลาดหุ้นไทย" เอื้ออำนวยมากในการทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่หุ้นมีขนาดเล็ก หรือหุ้นมีฟรีโฟลทน้อย แม้แต่ในหุ้นขนาดใหญ่จำนวนหนึ่ง อีกทั้งระบบกฎหมายและภาษีของไทยเอื้ออำนวยมาก เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ เจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ของไทย ยังเป็นบุคคลธรรมดาจำนวนมาก และเขาเหล่านั้นมีแรงจูงใจที่จะทำให้ราคาหุ้นของตนวิ่งขึ้นไปสูงสุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะเมื่อมันไม่ผิดกฎหมายหรือแม้แต่จริยธรรม ว่าที่จริงหลายคนกลายเป็น "ฮีโร่” ด้วยซ้ำที่สามารถ “สร้างมูลค่าหุ้น” ได้แบบเหลือเชื่อ
ผมคงไม่บอกว่าจะทำอย่างไรที่จะป้องกัน และก็คิดว่าคงไม่มีใครอยากเสนอมาตรการที่จะทำให้ราคาหุ้นตกหรือลดลงแบบหายนะ คนที่อยู่ในวงการลงทุนแทบทั้งหมดนั้นมักจะมีผลประโยชน์จากการที่หุ้นขึ้นทั้งนั้น แต่การที่ปล่อยให้หุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ นั้น ในที่สุด มันก็ต้องตกลงมา และผลร้ายที่จะเกิดขึ้นในเวลานั้น รวมถึงความผิดปกติอีกหลายๆ อย่าง ก่อนถึงวันนั้น ก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาวต่อตลาดหุ้นอย่างใหญ่หลวง ถ้าเช่นนั้นเราควรทำอย่างไร
ผมเองอยากจะเสนอ "เล่นๆ” เพราะคิดว่ายังไงเขาก็ไม่เอาด้วยอยู่แล้วว่า แทนที่จะป้องกัน ไหนๆ คนที่ชอบเล่นเก็งกำไรก็อยากเล่นอยู่แล้ว เราก็ตั้งกระดานซื้อขายหุ้นขึ้นมาอีกกระดานหนึ่ง อาจจะเรียกว่า "Bubble Board” หรือ "BB” คล้ายๆ กับที่เรามีตลาดหลัก ที่เรียกว่า SET และตลาด MAI ซึ่งเป็นกระดานของบริษัทขนาดเล็ก โดยตลาด "BB” จะเป็นตลาดที่รวมของหุ้นที่มีราคาแพงเวอร์เป็น "ฟองสบู่” เช่น ค่า P/E อย่างน้อย 50 หรือ 100 เท่าขึ้นไป ค่า P/BV 10 หรือ 20 เท่าขึ้นไป มูลค่าหุ้นต้อง 5,000 ล้านบาทขึ้นไป เป็นต้น และเมื่อหุ้นตัวไหนเข้าเกณฑ์นี้ก็จะถูกถอนออกไปจากตลาด SET หรือ MAI และไปซื้อขายในกระดานหุ้นฟองสบู่หรือ BB จนกว่าจะหลุดจากเงื่อนไขเหล่านั้น
หุ้นในตลาด BB จะแยกจากตลาดอื่นแบบเด็ดขาด ในแง่ที่ว่ามันจะไม่ถูกคำนวณในดัชนีอะไรทั้งนั้น ดังนั้น มันจะไม่มีผลกระทบด้านที่ไม่ดีอย่างเช่นในปัจจุบันที่ราคาหุ้นสะท้อนเข้าไปอยู่ในดัชนีที่ทำให้คนเข้าใจผิด นอกจากนั้นตราสารอนุพันธ์ต่างๆ ที่อิงกับดัชนี เช่น TFEX ก็จะสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น ความผันผวนของดัชนีต่างๆ ก็จะได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ เมื่อแยกเป็นกระดานต่างหากแล้ว เราจะออกมาตรการอะไรก็สามารถทำได้ โดยที่มาตรการนั้นจะไม่ใช้บังคับ และไม่กระทบกับหุ้นตัวอื่นในกระดานอื่นที่เป็นตลาดหลักๆ สำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนที่เน้นพื้นฐานหรือแม้แต่นักเก็งกำไรที่อิงอยู่กับหลักการหรือพื้นฐานต่างๆ ที่ก็มีความสำคัญกับตลาดหุ้นที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับคนที่ยังอยากเล่นหุ้นที่ราคาขึ้นลงแรงผันผวนมาก และพร้อมจะหมดตัวหรือขาดทุนแบบ 99% ในหุ้นบางตัวได้นั้น ผมเองก็คิดว่า พวกเขาควรจะรู้และตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะได้รับ เพราะมิฉะนั้นก็จะกลายเป็นว่าเขาจะโทษตลาดได้ ดังนั้น ผมคิดว่าคนที่จะเข้าไปซื้อขายหุ้นในตลาด BB ได้ ควรต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมและต้อง "ลงทะเบียน” ด้วย