BlackRock ช่วยติดปีก BAY ให้ก้าวสู่การเป็น Investment Wealth Advisory Bank
370 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากที่ บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจการให้คำปรึกษา การลงทุน และการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) กับ แบล็คร็อค (BlackRock) หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่มีขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2563 ที่ผ่านมา
ล่าสุด นายวิน พรหมแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ค บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในหลากหลายมิติ BlackRock ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและความแม่นยำในการลงทุน ได้แบ่งปันมุมมอง และแนวทางการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกให้กับธนาคาร รวมไปถึงเข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายทอดความรู้ด้านการลงทุน พร้อมทั้งนำเสนอมุมมองการลงทุนใหม่ๆ ที่ช่วยสร้างโอกาสในการลงทุนระยะยาว อย่าง เมกะเทรนด์ Trend การลงทุนบนความยั่งยืน ให้กับลูกค้าของธนาคาร โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ
และบทพิสูจน์แรกที่ชี้ให้เห็นความสำเร็จของการร่วมมือกัน เกิดขึ้นจากการออกผลิตภัณฑ์ตัวแรก “กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอล คอร์ อโลเคชั่น (KFCORE)” ซึ่งมีนโยบายการลงทุนแบบผสมหลากสินทรัพย์ทั่วโลก ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ทั้งในแง่เม็ดเงินลงทุนที่สูงกว่า 4 พันล้านบาท และผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 3 - 5% โดย KFCORE สามารถสร้างผลตอบแทนได้เกิน 7% เมื่อคิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และประมาณ 7% เมื่อคิดเป็นเงินบาท ทั้งที่บรรยากาศการลงทุนในรอบปีนี้มีความผันผวนมาก ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการที่ BlackRock มีการวางกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม สอดรับกับสถานการณ์ หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ ทันเวลา อีกทั้งยังมีการใช้ Big Data และเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยบริหารกองทุน ทำให้สามารถปรับพอร์ตอย่างรวดเร็ว สามารถปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนได้อย่างเหมาะสมและถูกจังหวะเวลา
ในโอกาสครบรอบ 1 ปี ทางธนาคาร และ แบล็คร็อค เตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุน และบริหาร wealth ให้กับลูกค้าของธนาคารเพิ่มเติม เพราะถึงวันนี้ ธนาคารพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็น Investment Wealth Advisory Bank หรือ ธนาคารที่ลูกค้านึกถึง เมื่อต้องการคำแนะนำการลงทุนตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
