ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง IROYAL ขาย IPO 58 ล้านหุ้น เพิ่มศักยภาพผู้นำธุรกิจโซลูชั่นพลังงานไฟฟ้า  

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน  บมจ. อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง (IROYAL) เปิดเผยว่า ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 58 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.22% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่ง (Filing) ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ภายในครึ่งหลังปีนี้  

ทั้งนี้ IROYAL เป็นผู้นำในธุรกิจโซลูชั่นพลังงานไฟฟ้า รวมถึงจำหน่ายและให้บริการติดตั้งระบบวิศวกรรมที่สร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าและสาธารณูปโภค อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามหลัก ESG และเป้าหมายความยั่งยืนของสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรโลกให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ผ่านผลิตภัณฑ์ 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบเผาไหม้ (Combustion System) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบจัดการของเสียและไอเสีย (Flue Gas Management System) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchanger System) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบอื่นๆ 

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทฯ มีแผนนำเงินทุนไปใช้ในการประมูลงานโครงการภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน รวมถึงไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศํกยภาพการดำเนินธุรกิจ และผลักดันการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว

ส่วนนายภณภัทร เมฆาสุวรรณดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IROYAL ชี้แจงเพิ่มว่า การเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้านั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประชาชนสามารถอยู่อาศัยและสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีต่างๆ ได้ ส่งผลให้การบำรุงรักษาเครื่องจักรเพื่อเพิ่มเสถียรภาพและความปลอดภัยในระบบการผลิต รวมถึงความพร้อมใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ กลายเป็นความจำเป็นในการใช้บริการด้านวิศวกรรมโรงไฟฟ้าจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชำรุดหรือเสียหาย (Breakdown) ที่อาจส่งผลต่อกระบวนการผลิต ซึ่งการให้บริการประเภทนี้ ต้องอาศัยองค์ความรู้ ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ขั้นสูง และระบบการผลิตในอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยบริษัทฯ มีความสามารถด้านการบริการให้คำปรึกษา จัดหา และติดตั้งผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะ (Customized) ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย โดยกลุ่มบริษัทฯ ไม่เพียงแต่ให้บริการจัดหาและติดตั้งผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังให้คำปรึกษาและจัดหาโซลูชั่นให้ลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาและข้อบกพร่องต่างๆ รวมถึงสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้มีความยั่งยืนได้อีกด้วย 

กลุ่มบริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากว่า 40 ปี สามารถใช้องค์ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการจนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าที่เป็นองค์กรชั้นนำของประเทศ ส่งผลให้มีฐานลูกค้าที่สำคัญในกลุ่มลูกค้าประเภทอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บมจ. ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) โรงไฟฟ้าหงสา ใน สปป.ลาว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ผ่านผู้ผลิตที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นนำที่ได้มาตรฐานสากล จากหลายแบรนด์ทั่วโลก อาทิ อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์  

สำหรับผลดำเนินงานในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 280.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.68% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 152.11 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 54.25% และรายได้จากการขายพร้อมติดตั้ง 126.92 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 45.27% โดยปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตมาจากยอดขายและการติดตั้งงานเพิ่มขึ้น หนุนให้กำไรสุทธิขยายตัว 158.52% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 72.22 ล้านบาท เหตุผลจากรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และบริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดีขึ้น

ขณะที่ผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 86.37 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 61.13 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70.77% และรายได้จากการขายพร้อมติดตั้ง 21.72 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 25.15% หนุนให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 130.76% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 33.13 ล้านบาท หนุนจากบริษัทฯ มีรายได้ประจำจากอุปกรณ์และชิ้นส่วนวิศวกรรมที่ปรับแต่งเฉพาะให้ตรงความต้องการของลูกค้า ช่วยแก้ปัญหาหลักของลูกค้าได้ตรงจุด เป็นผลให้สามารถสร้างอัตรากำไรที่สูงได้