MASTER ย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อก้าวเป็น Regional Company

4909 จำนวนผู้เข้าชม  | 

MASTER ย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อก้าวเป็น Regional Company


นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) เปิดเผยถึงการย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) เข้ามาซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า เกิดจาก 2 สาเหตุ คือ การยกระดับธุรกิจให้ก้าวขึ้นเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามแถวหน้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะ Regional Company หลังจากก้าวแรกในการเดินหน้าขยายฐานธุรกิจตามเป้าหมายระยะสั้น ประสบความสำเร็จตามที่บริษัทฯ วางแผนเอาไว้ และเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบัน ทั้งกองทุนในและต่างประเทศ สามารถเข้ามาร่วมลงทุนในบริษัทฯ ได้สะดวกขึ้น หลังจากตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ตั้งแต่เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน มีนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจ ทั้งจากกลยุทธ์การเติบโตจากภายใน (Organic) และกลยุทธ์การเติบโตจากภายนอก (Inorganic) ผ่านรูปแบบการร่วมลงทุน Merger and Partnership (M&P) ผลักดันให้รายได้ช่วง 3 ปีนี้ เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% และพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงคู่ตลาดทุนไทย

ส่วนนางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER เสริมว่า ก้าวแรกในการยกระดับธุรกิจให้เป็น Regional Company พร้อมเปิดฉากขึ้นในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก โดยบริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาขยายธุรกิจในรูปแบบโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม คาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนในไตรมาส 2 ปีหน้า หลังจากที่ผ่านมา การจับมือกับ Influencer ชื่อดังของอินโดนีเซีย ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ขณะที่การทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับภูมิภาค ตลอดจนการเข้าไปลงทุนในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเป็นธุรกิจระดับแนวหน้าในแต่ละภูมิภาคของประเทศ โดยใช้จุดแข็งด้านระบบและการจัดการสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกัน ภายใต้กลยุทธ์ Cross Boder, Cross Selling และ Cross Synergy ซึ่งถูกออกแบบเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีความเป็นไปได้สูงว่า สัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างประเทศปีนี้จะเพิ่มจากปัจจุบันที่ 25.85% ขึ้นมาที่ 30% ก่อนเพิ่มเป็น 40% ในปีหน้า

 

 

 

 

ขณะที่แนวโน้มผลดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง คาดจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการเติบโตทั้งแบบ Organic และ Inorganic โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปี ที่เป็น High Season ของธุรกิจ เนื่องจากอัตราการเติบโตของหัตถการยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับเห็นยอดการใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าต่างชาติปรับตัวสูงขึ้น 10-15% สอดคล้องกับการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ และกลับเข้าสู่ระดับปกติ ทำให้เชื่อมั่นว่า เป้าหมายรายได้จะเติบโตจากปีก่อน 20% ตามที่วางไว้ และอาจเห็นดีลร่วมลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติมในช่วงโค้งสุดท้ายของปี

สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก 7 ค่าย ได้แก่ เอเอสแอล (ASL) เอเซีย พลัส (ASPS) ดาโอ (DAOL) กรุงศรี (KSS) ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ทรีนีตี้ (TNITY) หยวนต้า (YUANTA) คิดตรงกันว่า การย้ายเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศที่สนใจ สามารถเข้ามาลงทุนได้มากขึ้น สอดคล้องกับโอกาสการเติบโตของธุรกิจศัลยกรรมความงามที่ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยเฉพาะศัลยกรรมความงามของไทยที่มีการพัฒนาอย่างมาก ดูได้จากจำนวนคนต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น จากทั้งอินโดนีเซีย กัมพูชา เมียนมาร์ และจีน จากจุดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งของไทยที่ใช้ระยะเวลาการเดินทางน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเกาหลี มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่มีคุณภาพ รวมถึงการกำหนดราคาที่สมเหตุสมผล ส่วนผู้ใช้บริการชาวไทยเองก็ให้ความสนใจทำศัลยกรรมในประเทศเพิ่มขึ้น เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อีกทั้งยังสามารถติดตามผลหลังการศัลยกรรมทำได้ง่ายกว่า

ยิ่ง MASTER มีการทำตลาดเชิงรุกเป็นลำดับต้นๆ ในกลุ่ม และยังมีกลยุทธ์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ทั้งแบบ Organic และ Inorganic ทำให้สามารถคาดหวังการเติบโตของกำไรช่วง 3 ปีนี้ (ปี 2567-69) ได้เป็นเลข 2 หลัก เฉพาะปีนี้ คาดว่ากำไรในไตรมาสสุดท้ายจะเติบโตทำสถิติสูงสุดในรอบปี หนุนจาก High Season ของธุรกิจทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการเลื่อนนัดการผ่าตัดของลูกค้าไทยในไตรมาส 3 จากผลกระทบของสถานการณ์น้ำท่วม อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าต่างชาติ ซี่งจะมีการใช้จ่ายต่อครั้งในการใช้บริการสูงกว่าคนไทย เพราะมีการใช้บริการมากกว่า 2 หัตถการขึ้นไป ผลักดันให้กำไรทั้งปีทำได้ไม่ต่ำกว่า 451 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเหมาะสมเฉลี่ยที่ 59.50 บาท และแนะนำซื้อ

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้