574 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังการประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 22 กันยายน ปีที่แล้ว และได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อปลายปี ภายใต้ยุทธศาสตร์ยานแม่ "กลุ่มเอสซีบี เอกซ์" (SCBX) มีความเคลื่อนไหวที่สะท้อนแนวทางการสร้างธุรกิจเทคโนโลยีการเงินและแพลตฟอร์มออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดตัวบริษัทลูกใหม่ๆ เช่น AISCB, SCB TechX, Alpha X รวมถึงการขับเคลื่อนผ่านรูปแบบการลงทุน อาทิ การจัดตั้งกองทุนร่วมทุน หรือ Venture Capital ที่มุ่งเน้นการลงทุนใน Disruptive Technology ด้านบล็อกเชน สินทรัพย์ดิจิทัล เทคโนโลยีด้านการเงิน และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงทั่วโลก
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อ 5 – 6 ปีก่อน บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เริ่มกลยุทธ์ "ตีลังกา" ทันทีที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่มีดิจิทัลเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน เกิดเป็นกระแส Digital Disruption ที่หลายบริษัทชั้นนำทั่วโลกต่างตระหนักถึง และเร่งปรับตัวให้ทัน เพื่อพาองค์กรให้อยู่รอด รวมถึงธุรกิจธนาคารที่ต้องเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เพื่อต่อกรกับผู้เล่นหน้าใหม่จากบริษัท Tech Company ทั้งในและต่างประเทศ ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค จนมาสู่ยุทธศาสตร์ "ยานแม่” ด้วยการจัดตั้ง "SCBX” เพื่อนำบริษัทในกลุ่ม SCB ให้มุ่งเน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง และตอบรับโลกแห่งอนาคต มุ่งสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค และระดับโลก โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านล้านบาท และฐานลูกค้ากว่า 200 ล้านคน
ซึ่งนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) ชี้แจงว่า บริษัทฯ มีการแสวงหาโอกาสใหม่กับธุรกิจที่มีผลกำไรสูง และมีอนาคต ผ่านการลงทุนใน 3 รูปแบบ ดังนี้
บริษัทที่ SCBX จัดตั้งขึ้นมาเองเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจการเงินส่วนบุคคล และสินเชื่อ โดยการจัดธุรกิจที่มีการเติบโตสูง เช่น Auto X เพื่อทำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ กับ Card X เพื่อดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล บริษัทใหม่หรือธุรกิจใหม่ที่เกิดจากการลงทุนของบริษัทในเครือ เช่น SCB 10X ที่จัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม หรือสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Robinhood แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติ ไทย และ Token X ให้บริการเกี่ยวกับธุรกิจโทเคนดิจิทัลแบบครบวงจร
SCBX ร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ เช่น AISCB บริษัทร่วมทุนกับเอไอเอส เพื่อให้บริการด้านการเงินดิจิทัล Alpha X บริษัทร่วมทุนกับกลุ่มธุรกิจ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) เพื่อให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ รองรับลูกค้ากลุ่มพรีเมียม-ลักชัวรี่ และ SCB TechX บริษัทร่วมทุนกับปับลิซีส เซเปียนท์ เพื่อให้บริการธุรกิจในรูปแบบพัฒนาระบบดิจิทัลเทคโนโลยี และธุรกิจด้านแพลตฟอร์ม
ซึ่งการลงทุนทั้ง 3 รูปแบบจะโฟกัสที่เทคโนโลยี การเงิน แพลตฟอร์ม และสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นหลัก รวมถึงธุรกิจใหม่ที่มีอนาคต ภายใต้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานกำกับดูแลทางการ โดยไม่ได้จำกัดตัวเองว่าจะต้องเป็นธุรกิจที่อยู่ในประเทศไทยหรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น เพราะโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลยุคนี้ ทำให้มีลูกค้าเป้าหมายของกลุ่มไทยพาณิชย์ กระจายอยู่ทั่วโลก
ซึ่งแผนการขยายตัวไปยังธุรกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมานั้น SCBX ยังทำหน้าที่เป็น "ยานแม่” ที่ดูแลการทำ Business Development และการทำ Merger an Acquisition ของกลุ่มฯ คู่ขนานไปพร้อมๆ กับกระบวนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่ม SCB โดยกระบวนการถัดไป ผู้ถือหุ้นทุกรายจะต้องทำการแลกหุ้นของธนาคารเป็นหุ้นของบริษัท SCBX และภายหลังการแลกหุ้นดังกล่าว หุ้นของบริษัท SCBX จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แทนหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ที่จะเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน