ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง FM ขาย IPO 376 ล้านหุ้น ยกระดับการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุก 

นางดาริน กาญจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออพท์เอเชีย แคปิตอล (OptAsia) ที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตและจำหน่ายไก่แปรรูปปรุงสุก เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) จำนวน 376.96 ล้านหุ้น คิดเป็น 38.16% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด ที่ราคาพาร์หุ้นละ 2 บาท ทำให้พร้อมเดินหน้านำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ภายในไตรมาส 3 นี้

ทั้งนี้ FM ประกอบธุรกิจโฮลดิ้งที่ลงทุนในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจอาหาร (Food Focus) โดยมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายไก่แปรรูปปรุงสุกเป็นหลัก โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในการผลิต อีกทั้งยังลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ โดยมีการขายทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ อย่าง สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น แคนาดา เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เกาหลีใต้ กัมพูชา จีน และสิงคโปร์

สำหรับเหตุผลในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว จากแผนเพิ่มกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปให้สูงขึ้น 30% พร้อมขยายขอบเขตการทำธุรกิจไปสู่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในทุกส่วนของไก่ ยกระดับอัตรากำไรให้สูงขึ้น ควบคู่ไปกับการขยายตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ด้านนายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM เสริมว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และการเป็นที่รู้จักของลูกค้า คู่ค้า เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยต่อยอดโอกาสทางธุรกิจแล้ว ยังจะช่วยให้กลุ่มบริษัทฯ มีเงินทุนไปใช้ขยายธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต และต่อยอดความสำเร็จอย่างยั่งยืน จากแผนปรับปรุงสายการผลิตเดิม และขยายกำลังการผลิตของโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุก (CAV Products) การขยายกำลังการผลิตของโรงเชือดและชำแหละไก่ และการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง หรือธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์พลอยได้ของกลุ่มบริษัทฯ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ และชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน 

สำหรับผลดำเนินงานช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง แต่ความสามารถในการทำกำไรจะผันผวนตามราคาวัตถุดิบค่อนข้างมาก รวมถึงยอดขายและราคาขายที่แปรผันตามอุปสงค์และอุปทานในแต่ละช่วงเวลา จึงทำให้กำไรสุทธิ 3 ปีล่าสุด (ปี 2564-66) แกว่งตัวค่อนข้างมาก จาก 183.72 ล้านบาท ในปี 2564 เพิ่มเป็น 840.67 ล้านบาท ในปี 2565 (หนุนจากยอดขายและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ขณะที่ต้นทุนอาหารไก่ปรับเพิ่มขึ้นแต่ไม่มาก หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว) ก่อนจะลดลงเหลือ 254.69 ล้านบาท ในปี 2566 (จากราคาขายไก่ที่ลดลงตามราคาตลาด สวนทางต้นทุนอาหารไก่ที่สูงขึ้น อีกทั้งยังมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยในประเทศที่เพิ่มขึ้น กดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงกว่า 50%)

ขณะที่รายได้จากการขายและบริการ เติบโตจาก 4,166.42 ล้านบาท ในปี 2564 เป็น 5,825.72 ล้านบาท ในปี 2565 ก่อนประคองตัวที่ 5,782.16 ล้านบาท ในปี 2566 เมื่อมีลูกค้าในประเทศของผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปขอเลื่อนการจัดส่งออกมาเป็นไตรมาสแรกปีนี้แทน ส่งผลให้ผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 22.81% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 1,737.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 124.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.53 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน