PCE เตรียมเสนอขายหุ้น IPO 750 ล้านหุ้น ต่อยอดความเป็นผู้นำธุรกิจน้ำมันปาล์มและระบบซัพพลายเชนครบวงจร ไตรมาส 3 นี้

4512 จำนวนผู้เข้าชม  | 

PCE เตรียมเสนอขายหุ้น IPO 750 ล้านหุ้น ต่อยอดความเป็นผู้นำธุรกิจน้ำมันปาล์มและระบบซัพพลายเชนครบวงจร ไตรมาส 3 นี้



นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) จำนวน 750 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด ที่ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ทำให้พร้อมเดินหน้านำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ภายในไตรมาส 3 นี้

เบื้องต้น บริษัทฯ กำหนดแผนเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจในธุรกิจของ PCE พร้อมทั้งแสดงศักยภาพความเป็นผู้นำธุรกิจน้ำมันปาล์มและระบบซัพพลายเชนครบวงจร

ด้านนายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ APM กล่าวเสริมว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับ PCE ช่วยเพิ่มโอกาสต่อยอดธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน สอดรับกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร โดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการระดมทุน เพื่อนำไปใช้ลงทุนในกิจการอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซล (B100) เช่น โรงสกัดน้ำมันปาล์ม รวมถึงลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และควบคุมต้นทุน อีกทั้งเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ





ส่วนนายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ PCE ชี้แจงว่า บริษัทฯ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) แบ่งได้เป็นกลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค ซึ่งจะนับรวมถึงการซื้อน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศด้วย, กลุ่มธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ, กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ และกลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ

ปัจจุบัน มีบริษัทย่อยภายในกลุ่มรวม 5 บริษัท ประกอบด้วย

บริษัท นิว ไบโอดีเซล (NBD) ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ และน้ำมันพืชสำหรับการบริโภค ภายใต้ตราสินค้า รินทิพย์ โดยมีถังเก็บน้ำมันปาล์มและน้ำมัน B100 ทั้งหมด 80 แทงค์ สามารถจัดเก็บได้ปริมาณ 100,000 ตัน และมีโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพอีกด้วย

บริษัท ปาโก้เทรดดิ้ง (PACO) ทำธุรกิจซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันเมล็ดในปาล์ม เมล็ดในปาล์ม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากปาล์ม โดยจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

บริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง (PKM) ทำธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ ขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอส มีพื้นที่ให้บริการกว่า 50,000 ตางรางเมตร และมีคลังน้ำมัน 58 แทงค์ ที่สามารถรองรับปริมาณการจัดเก็บได้ถึง 240,000 ตัน โดยมีท่าเทียบเรือในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดฉะเชิงเทรา

บริษัท เพชรศรีวิชัย (PC) ทำธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางบกภายในประเทศ ด้วยจำนวนรถให้บริการกว่า 150 คัน เพื่อขนส่งน้ำมันปาล์ม รวมถึงสินค้าแห้งและอื่นๆ


บริษัท พี.ซี.มารีน 1992 (PCM) ทำธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือทั้งในและต่างประเทศ ด้วยจำนวนเรือบรรทุก 13 ลำ สามารถรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 1,800 – 3,100 ตัน สามารถขนส่งได้ทั้งของแห้งและของเหลว คิดเป็นปริมาณการขนส่งสูงสุดปีละกว่า 2 ล้านตัน





สำหรับโครงสร้างรายได้จะมาจากธุรกิจน้ำมันปาล์มสูงระดับ 98% ทำให้ผลดำเนินงานมีความผันผวนตามราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลก โดยช่วง 3 ปีล่าสุด (ปี 2564-66) รายได้จากการขายและบริการ เพิ่มจาก 28,041.14 ล้านบาท เป็น 32,656.38 ล้านบาท ก่อนลดลงมาที่ 24,669.68 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิ ลดลงจาก 739.52 ล้านบาท ลงมาเหลือ 180.61 ล้านบาท จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงในธุรกิจน้ำมันปาล์ม ธุรกิจเทรดดิ้ง และการปรับลดอัตราส่วนการผสมไบโอดีเซลตามนโยบายจากภาครัฐ ก่อนเพิ่มเป็น 310.73 ล้านบาท ตามอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นในธุรกิจน้ำมันปาล์ม และธุรกิจขนส่งเป็นสำคัญ

ขณะที่ผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้ 5,784.71 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 110.88 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 25% และ 48% ตามลำดับ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงในธุรกิจเทรดดิ้ง แต่บริษัทฯ ยังมั่นใจว่า จะสามารถผลักดันรายได้ปีนี้เติบโตจากปีก่อนได้ไม่ต่ำกว่า 10%  



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้