ยก ICHI หุ้นเด่นกลุ่มเครื่องดื่ม หลังไตรมาสแรกดีเกินคาด กำไร New High ปันผลสูง 5-6%

5097 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยก ICHI หุ้นเด่นกลุ่มเครื่องดื่ม หลังไตรมาสแรกดีเกินคาด กำไร New High ปันผลสูง 5-6%

 

 

หลังจาก บมจ. อิชิตัน (ICHI) ประกาศผลดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเพิ่มขึ้น 64% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) สูงกว่าที่ตลาดคาดราว 11% หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ดีกว่าคาดมาก โดยทำได้ 26.1% เทียบกับ 24.5% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 20.8% ในไตรมาสแรกปีก่อน ผลจากกำลังการการผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด ขณะที่ยอดขายทำสถิติสูงสุดใหม่ พุ่งแตะ 2.1 พันล้านบาท เติบโต 1% QoQ และ 17% YoY แบ่งเป็นรายได้จากตลาดในประเทศ 2 พันล้านบาท นำโดยยอดขายชาเขียวพร้อมดื่มที่เติบโตดี และยอดขายจากตลาดต่างประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นมาเป็น 149 ล้านบาท อีกทั้งการปรับกลยุทธ์การส่งเสริมการขายมาเน้นช่องทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายลดลงจาก 7.2% ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน และ 6.5% ในไตรมาสแรกปีก่อน เหลือ 6.1%  

ขณะเดียวกัน นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ ICHI ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า พร้อมใช้กลยุทธ์ 3N ประกอบด้วย New Product, New Market และ New Business เพื่อผลักดันรายได้ให้เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยวางเป้ารายได้ปีนี้แตะ 9,000 ล้านบาท ก่อนเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาทในปีหน้า ขณะเดียวกัน เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้ารักษาอัตรากำลังการผลิตที่สูงระดับ 80% ก่อนเดินเครื่องสายการผลิตที่ 9 เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 13% เป็นปีละ 1,700 ล้านขวด ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ยกระดับอิชิตัน กรีน แฟคทอรี ขึ้นเป็นโรงงานที่มีกำลังการผลิตเครื่องดื่มสูงสุดในประเทศ อีกทั้งเป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อที่ทันสมัยที่สุดในโลก และช่วยรักษ์โลก จากนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% ทั้งขวด ฝาปิด ฉลาก และลัง เพื่อให้พร้อมสำหรับการนำกลับมาใช้ใหม่ ประเดิมด้วยการนำขวดพลาสติกรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ 30% ในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อลดการใช้พลาสติกใหม่ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสานต่อเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 ขององค์กรตามไปด้วย 

 

  

แผนงานข้างต้น ถูกตีความจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์หลายสำนักว่า เป้ารายได้แตะ 9,000 ล้านบาท มีความเป็นไปได้สูง หนุนจากแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 2 ที่น่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ในรอบ 9 ปีได้ต่อ เพราะตลาดชาเขียวพร้อมดื่มยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง รวมถึงการเข้าสู่ช่วง High season ของธุรกิจที่เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ เสริมด้วยการรับรู้รายได้จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ ตันพาวเวอร์ และชิวชิว ก่อนเห็นการเติบโตอย่างโดดเด่นอีกครั้งในไตรมาสสุดท้าย ขานรับเศรษฐกิจที่คาดจะฟื้นตัวดีขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดจะเพิ่มขึ้นตามแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็นปีละ 1,700 ล้านขวด ผลักดันให้กำไรเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (New All Time High) ตามไปด้วย ทำให้สามารถจ่ายปันผลในอัตราสูง 5-6% คงความโดดเด่นที่สุดในกลุ่มเครื่องดื่มได้อย่างต่อเนื่อง    

ค่ายไพ (Pi) คาดรายได้รวมปีนี้เติบโต 8% YoY มาอยู่ที่ 8.7 พันล้านบาท แบ่งเป็นชาเขียวพร้อมดื่ม และน้ำสมุนไพรเย็นเย็น 7.1 พันล้านบาท (+7%YoY) ยอดขายเครื่องดื่มที่ไม่ใช่ชา 1,040 ล้านบาท (+26%YoY) ยอดขายตันซันซู 240 ล้านบาท (+20% YoY) และเครื่องดื่มตัน พาวเวอร์ 300 ล้านบาท ขณะที่กำไรคาดเติบโต 10% YoY แตะ 1.2 พันล้านบาท คิดเป็นมูลค่าพื้นฐานได้ที่ 20.00 บาท

หยวนต้า (YUANTA) ยังคงประมาณการรายได้และกำไรปีนี้ที่ 8.9 พันล้านบาท (+10.5%YoY) และ 1.3 พันล้านบาท (+19.7%YoY) ตามลำดับ แต่พร้อมปรับประมาณการเพิ่ม หากเห็นผลสำเร็จชัดเจนจากแผนปรับลดต้นทุนวัตถุดิบได้ต่ำกว่าคาด เบื้องต้น จึงคงราคาเหมาะสมที่ 21.60 บาท ใกล้เคียงราคาเฉลี่ยที่ตลาดให้ไว้ที่ 21.75 บาท พร้อมแนะทยอยซื้อสะสมในช่วงที่ราคาหุ้นแกว่งแคบๆ บริเวณ 17 บาท เพิ่มโอกาสหากำไรจาก capital gain ที่สูงกว่า 25% และรับปันผลสูงในระดับ 6-7%

เอเซีย พลัส (ASPS) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีหน้าและปีหน้าเพิ่มขึ้นจากเดิมราว 13% เป็น 1,413 ล้านบาท (+28% YoY) และ 1,591 ล้านบาท(+13% YoY) ตามการปรับปรุงสมมติฐานหลัก 3 ตัว คือ อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 25.5% และ 25.6% ตามลำดับ เพราะคาดบริษัทฯ สามารถจัดการต้นทุนบรรจุภัณฑ์ได้ดีจากการลดความหนาของบรรจุภัณฑ์ และมีการวางแผนคุมต้นทุนน้ำตาลล่วงหน้าทุกครึ่งปี อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ลดลงเป็น 6.4% และ 6.3% ตามลำดับ จากการจัดการงบประมาณทางการตลาดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมุ่งเน้นช่องทางออนไลน์ และปริมาณการผลิตจริงที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,148 ล้าน ขวด และ 1,258 ล้านขวด ตามลำดับ เพื่อรองรับยอดขายที่คาดจะฟื้นตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานถูกปรับเพิ่มจาก 20.10 บาท เป็น 22.60 บาท ตามไปด้วย

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้