LTS เคาะราคา IPO ที่ 3 บาท เปิดจอง 9 -10 และ 13 พ.ค. ดีเดย์ซื้อขายวันแรกในตลาด mai 17 พ.ค. 

4588 จำนวนผู้เข้าชม  | 

LTS เคาะราคา IPO ที่ 3 บาท เปิดจอง 9 -10 และ 13 พ.ค. ดีเดย์ซื้อขายวันแรกในตลาด mai 17 พ.ค. 



นางดาริน กาญจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล (OptAsia) ที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น (LTS) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 55 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.62% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 3 บาท จากราคาพาร์ที่หุ้นละ 0.50 บาท ระหว่างวันที่ 9 – 10 และ 13 พฤษภาคมนี้ ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (CGSI) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ประเทศไทย (YUANTA) คาดว่า จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) วันที่ 17 พฤษภาคมที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ การตั้งราคา IPO ที่ 3.00 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 19.72 เท่า เมื่อคำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพในการทำธุรกิจออกแบบ ติดตั้ง และจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง รวมถึงงานออกแบบระบบเทคโนโลยีควบคุมอุปกรณ์ Internet of Things (IOT) ชั้นนำของประเทศ ผลักดันให้ผลดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านรายได้และกำไร

โดยผลดำเนินงาน 3 ปีล่าสุด (ปี 2564-66) มีรายได้จากการขายเติบโตจาก 163.61 ล้านบาท เป็น 232.11 ล้านบาท และ 227.78 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนใหญ่มาจากการจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมา สถาปนิก รวมถึงลูกค้าโครงการขนาดใหญ่เป็นหลัก แต่เริ่มมีรายได้จากธุรกิจ IT Solutions เข้ามาเสริมในปีที่ผ่านมา โดยมีความเป็นไปได้ด้วยว่า ธุรกิจใหม่จะมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นในระยะต่อไป ขณะเดียวกัน การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น ผลักดันให้กำไรสุทธิเพิ่มจาก 0.72 ล้านบาท เป็น 15.01 ล้านบาท และ 31.43 ล้านบาท ตามลำดับ



 


ด้านนายภัฏ ตรัสโฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LTS กล่าวเสริมว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยเพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจของบริษัทฯ ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต จากการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ขยายโชว์รูม โกดังสินค้า เพื่อรองรับการขายสินค้าให้กับลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงขยายธุรกิจเพื่อรองรับโครงการขนาดใหญ่ของบริษัทฯ อาทิ สวนสาธารณะอัจฉริยะ โครงการ smart pole, โครงการ smart city, โครงการ smart street light และโครงการด้าน IT Solution ซึ่งบริษัทฯ มีแผนจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาและจำหน่ายชุดคำสั่งต่างๆ ให้แก่องค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาคอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน โดยให้บริการแบบครบวงจร จากผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม Subscription เป็นการซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมมาเพื่อจำหน่ายต่อให้ลูกค้าสมัครใช้บริการในรูปแบบรายเดือนหรือรายปี กลุ่ม Software Development เป็นการพัฒนาโปรแกรมจากทีมงานของบริษัทฯ ซึ่งจะมีทั้งการขายสิทธิ์โปรแกรมให้แก่ลูกค้า หรือการให้เช่าใช้โปรแกรม และกลุ่ม General Service เป็นบริการให้คำแนะนำการใช้โปรแกรมที่บริษัทฯ ให้บริการ ครอบคลุมถึงการบริการอบรมพนักงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศด้วย

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้