2589 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจาก บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ในสัปดาห์ก่อน ว่า บริษัท ซิทริน โกลบอล และซิทริน เวนเจอร์ สิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินการเข้าทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ TRUE และ DTAC โดยสมัครใจ (VTO) จากผู้ถือหุ้น TRUE และ DTAC ที่ไม่ต้องการแปลงหุ้นไปเป็นบริษัทใหม่ที่จะเกิดจากการควบรวมกิจการด้วยกัน ที่ราคาเสนอซื้อ 5.09 บาท สำหรับหุ้น TRUE และ 47.76 บาท สำหรับหุ้น DTAC ได้ประกาศยกเลิกการทำคำเสนอซื้อหุ้นโดยสมัครใจแล้ว เนื่องจากข้อเสนอ VTO จะมีอายุ 1 ปี (นับจากวันที่ 20 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นวันที่ทั้ง 2 บริษัทประกาศว่าจะเข้าทำคำเสนอซื้อหุ้น TRUE และ DTAC) ทำให้จำเป็นต้องถูกยกเลิกเมื่อไม่มีความคืบหน้าตามระเบียบของ ก.ล.ต. อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 บริษัทฯ ยังคงยืนยันว่า จะยังเดินหน้าการควบรวมกิจการต่อไป จนทำให้ราคาหุ้น TRUE และ DTAC ปรับฐานลงราว 8% และ 10% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในมุมมองของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ตีความว่า การควบรวมกิจการจะยังเดินหน้าต่อไป โดยคาดว่าจะเกิดในไตรมาสแรกปีหน้า แต่ข่าวดังกล่าวมีผลกระทบระยะสั้นต่อราคาหุ้นทั้ง TRUE และ DTAC เพราะเมื่อยกเลิกข้อเสนอ VTO ทำให้ไม่มีราคาเสนอซื้อให้เก็งกำไรระยะสั้นอีก และทำให้ทางเลือกของผู้ถือหุ้นของ TRUE และ DTAC มีจำกัด โดยหากไม่ต้องการจะถือหุ้นในบริษัทใหม่ที่จะเกิดจากการควบรวมกิจการ จะทำได้เพียงแค่การซื้อขายในกระดานตามปกติ หรือจะต้องถือเพื่อแปลงไปเป็นบริษัทใหม่
อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการควบรวมมีความคืบหน้ามากขึ้น เชื่อว่า ทั้ง 2 บริษัทฯ อาจมีการประกาศทำคำเสนอซื้อรอบใหม่ ภายใต้เงื่อนไขใหม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป
แต่ในเบื้องต้น การปรับฐานของราคาหุ้นครั้งนี้ ทำให้ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส (ASPS) แนะนำ switch จาก TRUE (ราคาเป้าหมาย 5.35 บาท) ไปที่ DTAC (ราคาเป้าหมาย 56 บาท) แทน เนื่องจากมีต้นทุนในการแปลงหุ้นเป็นบริษัทใหม่ที่ต่ำกว่า ขณะที่ยังมี upside จากราคาตลาดที่สูงกว่า
ส่วนฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย (KS) ยังคงมุมมองบวกต่อหุ้นกลุ่มไอซีที โดยยกให้ DTAC เป็นหุ้นเด่นเหมือนเดิม จากขนาดของการสร้างมูลค่าที่เกิดจากการผนึกกำลังในบริษัทใหม่ และจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทใหม่ เพราะมองว่า การยกเลิกข้อเสนอ VTO เป็นการป้องกันเชิงกลยุทธ์เพื่อไม่ให้บริษัทแม่ทั้ง บมจ.เจริญโภคภัณฑ์ (CPF) และกลุ่มเทเลนอร์ (Telenor) ใช้เงินมากเกินไปสำหรับสัดส่วนการถือหุ้นที่เกินความต้องการ โดยยังคงให้น้ำหนักที่ทั้ง TRUE และ DTAC จะไม่มีการปรับราคา VTO หรือแก้ไขสัดส่วนการแลกหุ้นใหม่แต่อย่างใด ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อหุ้น ทั้ง DTAC (ราคาเป้าหมาย 58.43 บาท) และ TRUE (ราคาเป้าหมาย 6.28 บาท) อีกครั้ง เพื่อรอลุ้นการที่ศาลปกครองกลางไม่รับคุ้มครองชั่วคราว และการประกาศซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นระยะสั้นใหม่
ขณะที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า (YUANTA) บอกว่า การยกเลิกคำเสนอซื้อ Tender Offer จะไม่กระทบกับการประเมินมูลค่าของบริษัทใหม่ ที่ตัวแปรหลักขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้าง Synergy แต่ย่อมส่งผลกระทบเชิงลบต่อนักลงทุนระยะสั้นที่สะสมหุ้นเพื่อหวังขายที่ราคา VTO ให้ผิดหวัง จึงยังคงแนะนำซื้อ ทั้ง DTAC (ราคาเป้าหมาย 55.75 บาท) และ TRUE (ราคาเป้าหมาย 6 บาท) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคงไม่สามารถคาดหวังการฟื้นตัวของราคาหุ้นได้เร็ว เพราะตลาดเพิ่งผิดหวังกับข่าวในสัปดาห์ก่อน ทำให้ต้องการเห็น Synergy ที่ชัดเจนก่อนกลับเข้าลงทุนอีกครั้ง ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์ ราคาหุ้นจะฟื้นตัวตามพัฒนาการของการควบรวมกิจการที่ลำดับถัดไปอยู่ที่การเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่ไม่อนุมัติในการประชุม และการจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมเป็นสำคัญ