1680 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) รายงานผลดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 503.58 ล้านบาท ขยายตัว 133.67% จากปีก่อน ขณะที่มีกำไรที่เป็นเงินสด (EBITDA) ทั้งสิ้น 649.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.40% จากปีก่อน ตามรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น 37.69% เป็น 2,188.90 ล้านบาท หลักๆ มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มธุรกิจ Trading และกลุ่มธุรกิจ Manufacturing - Petroleum ซึ่งหากคิดรวมรายได้ที่เกิดจากเงินปันผลรับในบริษัทร่วมทุน บีจีไอ ไบโอดีเซล (BBGI-BI) 475.81 ล้านบาท และกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทแห่งนี้อีก 259.45 ล้านบาท จะทำให้รายได้รวมทั้งปี เติบโต 67% มาอยู่ที่ 2,566.11 ล้านบาท
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ UAC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่ม จากกำไรสุทธิปี 2567 ให้กับผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นผลตอบแทนในระดับ 7-8% (อิงราคาหุ้นที่ 3.02 บาท)กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 17 มีนาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินในวันที่ 9 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งหากคิดรวมเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทฯ จ่ายปันผลทั้งปีในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท หรือจ่ายในอัตรา 66.29% ของกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและสำรองตามกฎหมาย
สำหรับความคืบหน้าของแผนดำเนินงานต่างๆ ล่าสุด โรงไฟฟ้าแม่แตง โรงไฟฟ้าภูผาม่าน และโรงไฟฟ้าเสาเถียร บริษัทฯ กำลังเดินหน้าจัดหาแหล่งวัตถุดิบเพื่อให้สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อผลักดันรายได้ให้เติบโตตามแผน ขณะที่การพัฒนาโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF3) ที่อินโดนีเซีย คาดว่า จะสามารถเดินเครื่องจำหน่ายเชื้อเพลิงได้ภายในไตรมาสแรกนี้ ตามแผน ส่วนการผลิตน้ำมันจากแหล่งผลิตอรุโณทัย (L10/43) กำลังวางแผนติดตั้งเครื่องมือ Beam Pump เพิ่มอีก 1 ชุด เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตปิโตรเลียมให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้