1590 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (SCAP) ประกาศผลดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวม 7,750.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.18% จากปีก่อน ถือเป็นผลสำเร็จจากการกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจมาเน้นปรับปรุงคุณภาพหนี้ให้ดีขึ้น ด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในการคัดเลือกลูกค้าใหม่ ลดยอดจัดสินเชื่อต่อลูกค้าลงมาให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง พร้อมกับยกระดับการติดตามหนี้ลูกค้าเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้คุณภาพหนี้ทยอยปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งค่าใช้จ่ายส่วนที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์รอการขายปรับตัวลง ยิ่งสถานการณ์การขาดทุนจากการขายรถยึดเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่ไตรมาส 3 ยิ่งทำให้ค่าเผื่อการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขายลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้เริ่มเห็นการเติบโตของสินเชื่อใหม่ ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ และสินเชื่อบุคคล ทำให้พอร์ตลูกหนี้รวมปรับตัวลดลงเพียง 8.23% มาอยู่ที่ 3.12 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม การที่ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าเกือบ 39% ส่งผลให้กำไรสุทธิปรับลดลง 23.89% มาอยู่ที่ 729.63 ล้านบาท
ความสำเร็จจากคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทฯ พร้อมจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท แบ่งเป็นเงินสด และหุ้นปันผล โดยจ่ายเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0023 บาท และหุ้นปันผลในอัตรา 50 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 8 พฤษภาคม และวันที่ได้รับทั้งเงินปันผล และหุ้นปันผล 27 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
พร้อมกันนี้ นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCAP เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2568 ว่า พร้อมขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้นำตลาด และสินเชื่อบุคคล แต่ยังคงเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีความสามารถในการชำระหนี้จนครบสัญญา เพื่อสานต่อความสำเร็จในการปรับปรุงคุณภาพหนี้ที่ได้ดำเนินการมาตลอดปี 2567 ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดหนี้เสีย (NPL) ให้อยู่ในระดับเหมาะสม สร้างผลกำไรให้เติบโตจากปีก่อน 30% ก่อนจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ขณะเดียวกัน จะยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการบริหารงานขาย และการให้บริการ เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น รองรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ในระยะต่อไป