1629 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) รายงานผลดำเนินงานเฉพาะกิจการ งวดไตรมาส 3 ปี 2567 สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกำไรที่เป็นเงินสด (EBITDA) 454.84 ล้านบาท ขยายตัว 381.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และ 548.6% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ขณะที่มีกำไรสุทธิ 431.35 ล้านบาท ขยายตัว 700.6% YoY และ 920.1% QoQ หนุนจากการได้รับเงินปันผลระหว่างกาลจากบริษัทร่วมทุน บีบีจีไอ ไบโอดีเซล (BBGI-BI) ตามสัดส่วนการถือหุ้น 30% ที่จ่ายในเดือนสิงหาคม คิดเป็นมูลค่า 452.52 ล้านบาท อีกทั้งรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 62.2% YoY และ 81.8% QoQ มาที่ 637.98 ล้านบาท
พร้อมกับหนุนให้ผลดำเนินงานเพาะกิจการของบริษัทฯ มีกำไรที่เป็นเงินสด (EBITDA) และกำไรสุทธิ เติบโต 67.0% และ 122.36% YoY มาอยู่ที่ 584.05 ล้านบาท และ 503.77 ล้านบาท ตามลำดับ โดยหากไม่คิดรวมเงินปันผลจากบริษัทร่วม รายได้จากการขายและบริการจะเพิ่มขึ้น 26.5% YoY เป็น 1,342.65 ล้านบาท นำโดยกลุ่มธุรกิจ Trading ที่สร้างรายได้ 1,387.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.7% YoY และกลุ่มธุรกิจ Manufacturing - Petroleum ซึ่งทำรายได้ 135.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154.0% YoY
สำหรับผลดำเนินงานงวด 9 เดือนรวมทั้งกลุ่มบริษัทฯ รายได้จากการขายและบริการจะเพิ่มขึ้น 30.75% YoY มาอยู่ที่ 1,645.95 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มธุรกิจ Trading และ Manufacturing - Petroleum แต่การการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย ยูเอซี แอ็ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAPC) ในไตรมาสแรก ทำให้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน และรายได้ลดลง 61.9% YoY คิดเป็นมูลค่า 128.82 ล้านบาท อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น 54.7% YoY เป็น 253.26 ล้านบาท สาเหตุจากการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์ทางการเงินของโรงงาน PPP (UAC) และโรงไฟฟ้าเสาเถียร (UACE) รวมกัน 63.34 ล้านบาท เนื่องจากได้รับวัตถุดิบไม่เพียงพอต่อการผลิต ตลอดจนมีค่าซ่อมแซมเครื่องจักร ค่าขนส่ง ค่าภาคหลวงสูงขึ้น จึงกดดันให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 66.85 ล้านบาท และ EBITDA อยู่ที่ 200.14 ล้านบาท ตามลำดับ
ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังคงรักษากระแสเงินสดได้เพิ่มขึ้นเป็น 788.05 ล้านบาท สามารถรองรับการไถ่ถอนหุ้นกู้ในกลางปี 2568 ได้ล่วงหน้า พร้อมกับควบคุมสัดส่วนหนี้ต่อทุน (D/E) ได้ที่ 0.84 เท่า เป็นไปตามกรอบนโยบายทางการเงินที่บริษัทฯ กำหนดไว้ไม่เกิน 2 เท่า ได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้บริษัทฯ เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 21 พฤศจิกายนนี้ ก่อนจ่ายปันผลตามมาในวันที่ 6 ธันวาคม
พร้อมกันนี้ นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ UAC เปิดเผยแผนงานช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 นี้ว่า น่าจะมีความคืบหน้าใน 2 เรื่อง คือ การที่บริษัทย่อย ยูเอซี ยูทิลิตีส์ (UACU) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการผลิตปิโตรเลียมของแหล่งบูรพา (L11/43) และแหล่งอรุโณทัย (L10/43) ได้เพิ่มการติดตั้งเครื่องมือ Beam Pump เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตปิโตรเลียมเพิ่มอีก 3 ชุด สำเร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้มีจำนวน Beam Pump รวม 6 ชุด หนุนให้กำลังการผลิตปิโตรเลียมเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่าวันละ 320 บาร์เรล ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ตามแผน ก่อนจะเดินเครื่องเต็มประสิทธิภาพได้มากขึ้นในปีหน้า เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็นวันละไม่ต่ำกว่า 400 บาร์เรล ช่วยผลักดันให้ EBITDA Margin สูงกว่า 70%
เช่นเดียวกับธุรกรรมการขายหุ้น BBGI-BI ให้กับ บมจ. บีบีจีไอ (BBGI) จำนวน 844,498 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด น่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เป็นมูลค่ากว่า 370.50 ล้านบาท ได้ภายในปีนี้ ตามแผนที่วางไว้