5250 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจาก บมจ. โพลีเน็ต (POLY) ผู้ผลิตสินค้าประเภทยาง พลาสติก และซิลิโคนขึ้นรูปตามความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร ไล่ตั้งแต่การร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์ ผลิตแม่พิมพ์ คิดค้นพัฒนาสูตรการผลิตวัตถุดิบ ไปจนถึงการขึ้นรูปชิ้นงาน สำหรับธุรกิจ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ (Automotive) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) และกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical) ประกาศความสำเร็จในการยกระดับการผลิตสินค้าที่ใช้นวัตกรรมขั้นสูงในกลุ่ม Medical ส่งออกไปทวีปยุโรปและอเมริกา ผลักดันให้ผลดำเนินงานครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิเติบโตจากครึ่งแรกปีก่อน 117% มาอยู่ที่ 93.7 ล้านบาท ทั้งที่รายได้จากการขายและให้บริการจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็น 475.1 ล้านบาท
ล่าสุด นางกาญจนา เหลารัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร POLY ชี้แจงว่า ความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมสินค้าในกลุ่ม Medical ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ผลักดันให้สัดส่วนรายได้จากกลุ่มนี้เพิ่มจาก 14% เป็น 19% ชดเชยรายได้จากกลุ่ม Consumer Products ที่มีสัดส่วนลดลงจาก 24% มาอยู่ที่ 20% พร้อมกับหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมขยายตัวจาก 20.7% เป็น 29.1% ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจกลุ่ม Medical อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ อุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดทรวงอก (Chest drain for surgery) ในไตรมาส 4 ปีนี้
ขณะเดียวกัน ธุรกิจอีก 2 กลุ่ม ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในครึ่งปีหลัง โดยกลุ่มธุรกิจ Automotive บริษัทฯ เตรียมรับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจาก Sumirico ลูกค้าในอเมริกาที่ย้ายฐานการผลิตมาไทย ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มผลิตแม่พิมพ์แล้ว คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากค่าแม่พิมพ์ต่อเนื่องในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 และหลังจากผลิตแม่พิมพ์เสร็จก็จะเริ่มผลิตชิ้นงานต่อยอดรายได้จากการขายในไตรมาส 4 บางส่วน ก่อนจะรับรู้รายได้เต็มตัวในปีหน้า อีกทั้งยังจะรับรู้รายได้ใหม่จากการร่วมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์กับโตโยต้า รับการเปิดตัวรีโว่โมเดลใหม่
เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Consumer Products ที่จะเริ่มมีการผลิตสินค้าใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ที่เริ่มส่งคำสั่งซื้อเข้ามาในเดือนกรกฎาคม ต่อเนื่องด้วยคำสั่งผลิตสินค้าใหม่ๆ เพิ่มจากกลุ่มเอสจี จอห์นสัน (SC Johnson) และโรงพยาบาลยันฮี เพื่อผลิตฝาน้ำวิตามิน ในเร็วๆ นี้ และมีความเป็นไปได้ด้วยว่า จะเห็นคำสั่งผลิตสินค้าใหม่ๆ เพิ่มจากยูนิลีเวอร์ (Unilever) และพีแอนด์จี (P&G) ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากการเดินทางไปเจรจากับลูกค้าในต่างประเทศ ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ สนับสนุนให้รายได้ปีหน้าแข็งแกร่งมากขึ้น โดยมีความเป็นไปได้ว่า อาจเห็นสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Comsumer และกลุ่มธุรกิจ Medical มีสัดส่วนรายได้ที่ 20% ใกล้เคียงกัน ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Automotive ยังมีสัดส่วนรายได้สูงระดับ 60% ตามปริมาณขายที่ยืนสูง
ขณะที่นายศรีชัย เหลารัตนา รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด POLY เสริมว่า บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า จะเห็นการเติบโตของรายได้จากการขายและให้บริการปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวมที่ 975.78 ล้านบาท โดยรายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีจะทำสถิติสูงสุด ก่อนเติบโตเพิ่มเป็น 20% ในปีหน้า สาเหตุจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยอาศัยสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าและคู่ค้า ร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีต้นทุนที่ต่ำลง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยตั้งเป้าหมายเป็นฐานการผลิตสำคัญรองรับการขายสินค้าในหลายทวีปทั่วโลก
ประการสำคัญ บริษัทฯ ยังคงพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการพัฒนาวัตถุดิบ โดยใช้จุดแข็งของกระบวนการผลิตที่ครบวงจร และมี Mixing line ที่ใช้สำหรับผสมและพัฒนาวัตถุดิบ ทำให้สามารถพัฒนาวัตถุดิบที่ไม่มีขายในท้องตลาดและนำมาใช้สำหรับการผลิตได้ พร้อมกับนำเอาระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยพัฒนาทั้งกระบวนการผลิต ช่วยลดความผิดพลาดในการทำงาน และศักยภาพในการผลิตแม่พิมพ์ที่มีคุณภาพสูง หรือดัดแปลงแม่พิมพ์ให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น ทำให้สามารถอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทุกด้านอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการพัฒนากระบวนการลดของเสียผ่านองค์ความรู้ด้านวัสดุศาสตร์ ตลอดจนการรีไซเคิลวัตถุดิบ โดยที่ยังรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน