NER ย้ำ ผลงานปี 2567 โตตามเป้า หลังกำไร 9 เดือน โต 19.3% ทะลุ 1.2 พันล้านบาท

บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์  (NER) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 360.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.54% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ตามรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 9.51% มาอยู่ที่ 6,163.35 ล้านบาท อานิสงค์จากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 26% เป็นกิโลกรัมละ 62 บาท ทั้งที่ปริมาณขายจะลดลง 12.83% โดยทำได้ 98,006 ตัน

อย่างไรก็ตาม หากตัดรายการพิเศษออกไป กำไรปกติจะอยู่ที่ 221.22 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาด จากแรงกดดันของต้นทุนราคายางที่เพิ่มขึ้นช่วงต้นไตรมาส 3 ฉุดให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง จากที่ทำได้ 10.9% ในไตรมาส 3 ปีก่อน และ 12.4% ในไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) หลัก เหลือแค่ 8%   

สำหรับผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 19.31% YoY มาอยู่ที่ 1,293.14 ล้านบาท ตามรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.40% เป็น 18,514.43 ล้านบาท ทั้งที่ปริมาณขายจะลดลง 17.97% เหลือ 303,077 ตัน จากปริมาณผลผลิตยางไทยที่ออกมาน้อยลง  

กระนั้น นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NER ยังเชื่อมั่นว่า ผลดำเนินงานรวมทั้งปี 2567 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีปริมาณขาย 440,000 ตัน และรายได้รวมทั้งปีที่ 2.85 หมื่นล้านบาท สาเหตุจากบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมถึงไตรมาสแรกปี 2568 แล้ว อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากราคายางที่ปรับตัวขึ้นมายืนในระดับสูงกว่าปี 2566 ที่ผ่านมา

ซึ่งนักวิเคราะห์ทุกสำนักที่ทำการศึกษาหุ้น NER ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะเห็นผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายทำสถิติสูงสุดของปี ผลจากทั้งปริมาณขาย และราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา อีกทั้งยังคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3