OSP เดินหน้าสร้างการเติบโตตามแผน 5 ปี ขายเงินลงทุนในเมียนมาร์ ลงทุนไลน์ผลิตเครื่องดื่มกระป๋อง

บมจ. โอสถสภา (OSP) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์การลงทุน ทุ่มงบลงทุนเกือบ 1 พันล้านบาท ขยายฐานการผลิตเครื่องดื่มกระป๋องทั้งแบบอัดคาร์บอเนตและแบบไม่อัดคาร์บอเนต ภายใต้แบรนด์ เอ็ม-150, ชาร์ค และคาลพิส แลคโตะ ซึ่งเป็นเทรนด์การเติบโตของเครื่องดื่มในอนาคต พร้อมกับรุกขยายฐานผู้บริโภคและตลาดเครื่่องดื่มพรีเมี่ยมทั้งในและต่างประเทศในระยะยาว

นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OSP ชี้แจงว่า ไลน์ผลิตเครื่องดื่มกระป๋องแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ จ. อยุธยา มีกำลังการผลิตรวมกว่าปีละ 300 ล้านกระป๋อง ใช้เทคโนโลยีการผลิตกระป๋องที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ มีขีดความสามารถการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยตั้งเป้าเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสสุดท้ายปีหน้า ช่วยเสริมศักยภาพการผลิตของโอสถสภาได้ครบวงจรทั้งในรูปแบบต่างๆ  พร้อมกับตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ ในเมียนมาร์ และลาว ก่อนต่อยอดความสำเร็จในอีกกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ด้วยยอดขายเครื่องดื่มรวมกว่า 22,000 ล้านบาท 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้จำหน่ายเงินลงทุนใน MGE Group ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าที่ถือหุ้นโดยบริษัทย่อย ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขวดแก้ว (OEM) ในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งไม่ใช่ธุรกิจหลัก หลังจากได้พิจารณาผลดำเนินงานที่ผ่านมาในอดีต และทิศทางการดำเนินงานในอนาคตอย่างรอบคอบรัดกุมแล้ว ซึ่งได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อนวันที่ 30 สิงหาคมแล้ว โดยจะดำเนินการตามเงื่อนไขผูกพันภายใต้สัญญาดังกล่าว รวมทั้งการรับชำระเงินเพื่อให้ธุรกรรมเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในปีนี้  ปัจจุบันเงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่าคงเหลือ 136 ล้านบาท และบริษัทย่อยมีภาระค้ำประกันเงินกู้ให้ MGE Group ประมาณ 35.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 15,558 ล้านเมียนมาร์จัต ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศเมียนมาร์ ตลอดจนทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินงาน หรือสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ แต่อย่างใด 

ขณะที่นางสาวรติพร ราษฎร์เจริญ Group Chief Financial Officer เสริมว่า แผนงานข้างต้น จะทำให้บริษัทฯ สามารถเติบโตตามยุทธศาสตร์ระยะยาว ทั้งในแง่การเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้และอัตรากำไรจากธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง และการสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโต 5 ปีของกลุ่ม OSP และมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นพลังเพื่อเสริมสร้างชีวิตให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย