9 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) ผู้นำโครงข่ายโทรคมนาคมและดิจิทัลโซลูชันครบวงจร รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2567 สดใสขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยมีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.3% ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น 11.8% มาอยู่ที่ 637 ล้านบาท หนุนจากงานบริการติดตั้งโครงข่าย (Installing) ที่สูงขึ้น ตามความต้องการในการเชื่อมต่อข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ธุรกิจยังคงได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ ส่งผลให้รายได้จากงานบริการโครงข่าย (Data service) และงานบริการติดตั้งโครงข่าย (Installing) ส่วนใหญ่จะเกิดจากการส่งมอบงานในมือ (Backlog) เท่านั้น จึงกดดันให้รายได้รวมลดลง 15.7% และฉุดให้กำไรสุทธิลดลง 52.8% พร้อมกับกดดันให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ มีกำไรสุทธิ 176 ล้านบาท ลดลง 7.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่หากพิจารณาจากการดำเนินงาน กำไรปกติจะอยู่ที่ 122 ล้านบาท ลดลง 35.9% ตอกย้ำให้เห็นว่าผลดำเนินงานทั้งปีมีแนวโน้มชะลอตัวจากฐานปีก่อนที่สูง
อย่างไรก็ตาม ดร.ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITEL เชื่อว่า ผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้ น่าจะเติบโตดีขึ้นจากไตรมาส 3 ผลจากการรับรู้รายได้จาก Backlog สิ้นไตรมาส 3 ที่มี 1,966 ล้านบาท ราว 633 ล้านบาท และการรับรู้รายได้ตามความสำเร็จของงานใหม่ๆ ที่ได้รับเข้ามาช่วงโค้งสุดท้ายของปี ทั้งงานดูแลบำรุงรักษาโครงข่ายให้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมค่ายหนึ่งในภาคตะวันออก มูลค่า 18 ล้านบาท งานขยายจุดให้บริการ WIFI ของศูนย์อินเตอร์เน็ตสาธารณะ (USO NET) และศูนย์อินเตอร์เน็ตสาธารณะเพื่อชุมชน (USO Wrap) มูลค่า 100 ล้านบาท งานจ้างเหมาติดตั้งโครงข่ายใยแก้วนำแสงระยะทาง 700 กิโลเมตร ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่า 56 ล้านบาท งานติดตั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร มูลค่า 36 ล้านบาท และงานติดตั้งโครงข่ายให้กับหน่วยงานภาครัฐแห่งหนึ่ง มูลค่า 180 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้นทั้งหมด 33.33% ในบริษัท ETIX ITEL Bangkok คืนให้กับพันธมิตร กลุ่ม ETIX ของฝรั่งเศส คิดเป็นมูลค่า 110-120 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อนำเงินไปลงทุนขยายธุรกิจคลาวด์ เพื่อหารายได้จากการให้บริการคลาวด์ เพื่อช่วย Implement หรือ Migration ระบบขึ้นคลาวด์ ให้กับธุรกิจระดับ Hyperscaler ที่เข้ามาลงทุนสร้างดาต้า เซ็นเตอร์ แทน เพราะเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างกว่าธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ ที่คาดว่าจะมีอุปทานส่วนเกินในระยะยาว
ขณะที่ความล่าช้าในการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ในปีนี้ จะเริ่มเห็นภาพการทยอยเปิดประมูลงานในปีหน้าอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการต่อสัญญาให้บริการ USO Phase 1 และงานโครงการ USO3 ของสำนักงาน กสทช. ที่คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลในไตรมาสแรกปีหน้า ส่งผลให้แนวโน้มผลดำเนินงานปี 2568 กลับมาเติบโตโดดเด่นเป็นเลข 2 หลัก หลังจากที่ส่งผลกระทบให้ผลดำเนินงานปีนี้พลาดเป้าที่วางไว้
ประการสำคัญ บริษัทฯ พร้อมนำเอาจุดแข็งของโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพ มาต่อยอดเข้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ช่วยยกระดับการทำธุรกิจยุค Digital Transformation ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ อย่างครบครัน เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างรายได้และกำไรที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง