KTC พอใจแผนเพิ่มคุณภาพสินเชื่อทำได้ตามแผน แม้กำไรไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกจะทรงตัว

บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 1,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ สาเหตุจากรายได้มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1% QoQ และ 22% YoY หลักๆ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม และหนี้สูญได้รับคืน ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่อทรงตัวทั้ง YOY และ QoQ เพราะลูกค้าใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น สะท้อนจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรที่เติบโตขึ้น แต่เป็นการใช้จ่ายเพื่อสิ่งที่จำเป็นในชีวิต ขณะที่พอร์ตสินเชื่อบุคคลขยายตัวเพียงเล็กน้อย จากการปรับเกณฑ์อนุมัติสินเชื่ออย่างรัดกุม เพื่อควบคุมคุณภาพหนี้ ซึ่งประสบความสำเร็จ เมื่อสัดส่วนหนี้เสีย (NPLs) ลดลงจาก 2% มาอยู่ที่ 1.97% และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่ม 1,690 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก เพื่อให้สอดรับกับคุณภาพของลูกหนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงแนวทางการตัดหนี้สูญที่เร็วขึ้นในปีนี้ เพื่อรองรับความผันผวนที่อาจเกิดในอนาคต

สำหรับผลดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,629 ล้านบาท ลดลง 1.3% YoY สาเหตุจากค่าใช้จ่ายรวมที่เพิ่มขึ้น 14.8% เป็น 4,728 ล้านบาท และมีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดเพิ่มขึ้น 20.3% YoY เป็น 3,374 ล้านบาท บั่นทอนการเติบโตของรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 10.2% ให้อ่อนตัวลง แต่ถือได้ว่า สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และแผนงานที่มุ่งการเติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับภาพรวมครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีฐานสมาชิกรวม 3.44 ล้านบัญชี มีการปล่อยสินเชื่อแก่ลูกหนี้ และดอกเบี้ยค้างรับรวม 105,803 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.2%) ในจำนวนนี้ เป็นสมาชิกบัตรเครดิต 2.71 ล้านบัตร (เพิ่มขึ้น 4.3%) คิดเป็นเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิต และดอกเบี้ยค้างรับรวม 69,253 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.9%) สมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี 0.73 ล้านบัญชี (ลดลง 2.9%) มีวงเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคล และดอกเบี้ยค้างรับรวม 34,028 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1.9%) ขณะที่ NPLs บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.42% และ NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.21%

ส่วนยอดสินเชื่อ เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน อยู่ที่ 2,699 ล้านบาท (ขยายตัว 62.8%) ขณะที่ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อในบริษัทย่อย กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง (KTBL) มีมูลค่า 2,523 ล้านบาท (ลดลง 28.7%) เพราะบริษัทฯ ได้หยุดปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เพื่อมุ่งเน้นการติดตามหนี้และบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่มีอยู่  

โอกาสนี้ นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC เชื่อว่า แผนกลยุทธ์ต่างๆ ที่ดำเนินการมาตลอดครึ่งปีแรก จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายหลักทั้งปี ทั้งเป้าหมายการควบคุม NPLs ต่ำกว่า 2% และเป้าหมายการสร้างมูลค่ากำไรให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสร้างฐานลูกค้าบัตรเครดิตในกลุ่มที่มีรายได้สูงขึ้น การคัดกรองคุณภาพพอร์ตทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางรับสมัครสมาชิกผ่านจุดบริการใหม่ๆ อย่างเคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่กระจายในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อสร้างการตระหนักรู้ในผลิตภัณฑ์และสร้างโอกาสในการเข้าถึงผู้ต้องการสินเชื่อได้มากขึ้น