2727 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจาก บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) รายงานผลดำเนินงานปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 6,340.4 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 21.3% และมีกำไรสุทธิ 641.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% จากปีก่อนหน้า
ล่าสุด นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ ICHI ออกมาเปิดเผยแผนธุรกิจปีนี้ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตสูงขึ้น 15% เป็น 7,300 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มชาเขียว 5,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากปีก่อน กลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่ใช่ชาเขียว (น้ำวิตามิน น้ำด่าง ไบเล่) 470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% YoY) จากปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเกิน 20% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เกิน 10% ขับเคลื่อนโดยการพัฒนาสินค้า และการทำแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตให้สูงขึ้นมาที่ระดับ 70% เทียบกับปีก่อนที่ทำได้เฉลี่ยราว 60% เพราะประเมินว่า เทรนด์สินค้าด้านสุขภาพจะยังเติบโตได้ดี ขณะที่เครื่องดื่มแบบอัดก๊าซ (CSD) มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น อีกทั้งธุรกิจยังน่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว
สำหรับช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัทฯ เตรียมเปิดสินค้าใหม่ พร้อมพรีเซ็นเตอร์ระดับอินเตอร์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ตันซันซู ที่เตรียมนำเสนอรสชาติใหม่ "โซจู ไอศกรีมเมลอน" หวังดันยอดขายให้ถึงเป้าหมาย 500 ล้านบาท หรือแบรนด์ชิซึโอกะ ที่พร้อมออกรสชาติใหม่ "ชิซึโอกะ เกนไมฉะผสมมัทฉะ" ที่มีคาเฟอีนต่ำ รวมถึงแบรนด์พีเอชพลัส ส่ง "น้ำด่างอิชิตัน พลัส CBD" ที่ผสานคุณค่าจากน้ำด่างรักษาสมดุลในร่างกายเข้ากับสารสกัดจากกัญชง เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยคาดหวังยอดขายจากทั้ง 2 แบรนด์นี้ แบรนด์และ 50 ล้านบาท
ส่วนตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ พร้อมขยายความสำเร็จในตลาดอินโดนีเซีย ตั้งเป้ารับรู้ส่วนแบ่งกำไรในปีนี้เพิ่มขึ้น 90 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่รับรู้กำไร 82.2 ล้านบาท จากกำไรทั้งหมด 164.4 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับตลาดส่งออกอื่นๆ พร้อมทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่องในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน และขยายตลาดแถบตะวันออกกลาง เพื่อผลักดันรายได้จากการส่งออกให้ได้ 650 ล้านบาท สูงขึ้น 6% จากปีก่อน
ขณะที่ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) สามารถปิดดีลจากลูกค้ารายใหญ่ได้ 2 ราย ได้แก่ เครื่องดื่ม IF และ Coco Season เริ่มผลิตตั้งแต่ไตรมาสแรกนี้แล้ว และยังอยู่ในระหว่างเจรจากับบริษัทอีกหลายแห่ง โดยวางเป้าหมายเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีก่อน มาเป็น 100 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ กรรมการผู้อำนวยการ ICHI ยังพูดถึงเป้าหมายระยะยาว 3 - 5 ปีด้วยว่า ตั้งเป้ารายได้เติบโตแตะ 10,000 ล้านบาท ผ่านกลยุทธ์การขยายประเภทสินค้า และการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์ ไพ (Pi) ระบุว่า เครื่องดื่มแบรนด์ "ตันซันซู" จะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของรายได้ปีนี้ นอกเหนือจากเครื่องดื่มกลุ่มชาเขียว และเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กลุ่มชาเขียว ที่ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้แนวโน้มกำไรปีนี้และปีหน้าเติบโต 21% และ 11% เป็น 779 ล้านบาท และ 865 ล้านบาท ตามลำดับ ยิ่งบริษัทฯ จ่ายผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูดระดับ 4-5% จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยมีมูลค่าพื้นฐานที่ 15 บาท อิง P/E ปีนี้ที่ 23 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 3 ปี และค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าจำเป็นของไทย
ส่วนหยวนต้า (YUANTA) บอกว่า เริ่มเห็น Upside จากแนวโน้มตลาดชาเขียวที่ดีกว่าคาด และสินค้าใหม่ แบรนด์ตันซันซู ทำให้มีโอกาสปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายขึ้น เบื้องต้น คงราคาเหมาะสมสิ้นปีนี้ที่ 14.80 บาท แนะนำ "ซื้อ"
ในเชิงกลยุทธ์ แม้ราคาปัจจุบันจะปรับขึ้นมาสะท้อนผลดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน และแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในไตรมาสแรกปีนี้ไปบางส่วนแล้ว แต่ยังเชื่อว่า ราคาหุ้นยังไปต่อได้ จากปัจจุบันที่ซื้อขายบน PER ปีนี้ที่ 22.3 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 24 – 25 เท่า บนประมาณการกำไรที่มีโอกาสปรับขึ้นได้อีก เพราะคาดการณ์รายได้ และกำไรสุทธิไว้ที่ 6,721 ล้านบาท และ 740 ล้านบาท ต่ำกว่าที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเอาไว้
แนะนำ Let Profit Run หรือเข้าสะสมในช่วงที่ราคาอ่อนตัว เพื่อรับ capital gain จากราคาหุ้น และเงินปันผลในอัตรา 4-5% ซึ่งบริษัทเตรียมจ่ายให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 9 พฤษภาคม กำหนดจ่ายวันที่ 24 พฤษภาคม