AGE ใจดี ปันผลหุ้น 10 ต่อ 1 และเงินสด 0.2256 บาท XD 14 มี.ค.นี้ ก่อนลุยปั้น All time high รอบใหม่ปีนี้

2761 จำนวนผู้เข้าชม  | 

AGE ใจดี ปันผลหุ้น 10 ต่อ 1 และเงินสด 0.2256 บาท XD 14 มี.ค.นี้ ก่อนลุยปั้น All time high รอบใหม่ปีนี้

บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า รายงานผลดำเนินงานปีที่ผ่านมาด้วยการทำสถิติรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) โดยมีกำไรสุทธิ 1,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 95.6% ตามการขยายตัวของรายได้จากการขายและบริการรวมที่เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 18,815.2 ล้านบาท

โดยธุรกิจจำหน่ายถ่านหิน ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก สามารถทำยอดขายในประเทศได้มากถึง 3.8 ล้านตัน ทำให้ยอดรวมทั้งปีสูงถึง 4.1 ล้านตัน อีกทั้งยังสามารถรักษาส่วนต่างราคาขาย และต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ รายได้เพิ่มขึ้น 3.7% เป็น 2,074 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มบริษัทในเครือ 1,462 ล้านบาท ที่เหลือมาจากกลุ่มลูกค้าภายนอก ซึ่งมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม อาทิ ปูนซีเมนต์ ทราย แก้ว และกากอุตสาหกรรม และทำให้บริษัทฯ มีรายได้เสริมจากธุรกิจเทรดดิ้ง ทั้งการขายน้ำมัน และสินค้าเกษตรตามมา

นอกจากนี้ ยังเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก ที่เปิดตัวช่วงปลายปีที่ผ่านมา 0.5 ล้านบาท  

โอกาสนี้ บริษัทฯ พร้อมจ่ายปันผลสำหรับรอบบัญชีปีที่ผ่านมา ทั้งเงินสด และหุ้นปันผล โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.2256 บาท และจ่ายหุ้นปันผล ในอัตรา อัตรา 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 14 มีนาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม

 

 

สำหรับภาพรวมธุรกิจปีนี้ นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร AGE มั่นใจว่า จะเห็นการเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ 23,400 ล้านบาท ขับเคลื่อนผ่านทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ อย่างธุรกิจถ่านหิน พร้อมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันยอดขายรวมทั้งปีให้ได้ 5.2 ล้านตัน

ส่วนกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 235 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อหางพ่วงรถบรรทุกเพิ่มอีก 52 หาง ให้เพียงพอกับความต้องการใช้บริการขนส่งโลจิสติกส์ ทั้งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นในปีนี้  ซึ่งในช่วงต้นปี มีการส่งมอบหางพ่วงมาแล้ว 22 หาง ทำให้สามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น

ขณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านโลจิสติกส์ บริษัทฯ มีการลงทุนด้านเทคโนโลยี 10 ล้านบาท เพื่อช่วยให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัวขึ้น และลงทุนขยายพื้นที่คลังจัดเก็บสินค้าและโรงงานคัดแยกหลังที่ 5 เพิ่มเติมอีก 50 ล้านบาท ตามไปด้วย

สำหรับธุรกิจเทรดดิ้ง ตั้งเป้ารายได้จากการขายสินค้ามันสำปะหลังที่ 400 ล้านบาท ส่วนธุรกิจใหม่ ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกให้กับพนักงานขับรถที่มีผลงานดีของบริษัทฯ ภายใต้โครงการ "เถ้าแก่น้อย" เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเป็นเจ้าของรถบรรทุกเองได้ ปีนี้ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกเช่าซื้อให้กับพันธมิตรและผู้ร่วมโครงการ "เถ้าแก่น้อย" เพิ่มเป็น 500 ล้านบาท จากที่ปล่อยสินเชื่อไปแล้วในปีที่ผ่านมา 50 ล้านบาท 

 


ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นกับการควบคุมต้นทุนต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งบริหารความเสี่ยงของธุรกิจและความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ให้สอดรับกับแผนดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่เป็นพันธกิจหลักของบริษัทฯ อีกอย่างหนึ่ง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้