3072 จำนวนผู้เข้าชม |
เพราะการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมไม่เคยหยุดนิ่ง และยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ทำให้หุ้นกลุ่มนวัตกรรม ถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มในการเติบโตสูง จึงเหมาะสำหรับโอกาสการลงทุนในระยะยาว ประกอบกับเมื่อพิจารณาข้อมูลหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น การเปิดเมืองของจีน รวมถึงท่าทีผ่อนปรนของรัฐบาล ส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจจีนและตลาดหุ้นในระยะยาว หรือการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจว่าจะมีการปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ก่อนจะเติบโตแบบเร่งตัวในปีหน้า ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และการแพทย์ มีการปรับตัวลงจนมีความน่าสนใจสำหรับโอกาสหาผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวได้ ทำให้ บลจ. ดาโอ (DAOL Investment) เล็งเห็นโอกาสในการลงทุนที่เปิดกว้าง จึงเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิด ดาโอ อินโนเวชั่น (DAOL-INNOVA) ระหว่างวันที่ 9 - 16 กุมภาพันธ์ โดยกำหนดเงื่อนไขการลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 5,000 บาท
ทั้งนี้ กองทุน DAOL-INNOVA จะลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุน ต่างประเทศ ที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ หรือตราสารของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ หรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนวัตกรรมโลกยุคใหม่ (disruptive innovation) ทั่วโลก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAVs) ของกองทุนรวม
ส่วนที่เหลืออีก 20% ของ NAVs อาจกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก ตราสารทางการเงิน หรือหาดอกผลโดยวิธิอื่น ภายใต้เกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กำหนดไว้
นอกจากนี้ กองทุนอาจมีการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ (derivative) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
โดยเพื่อบริหารความเสี่ยงในการลงทุน ควบคู่ไปกับสร้างผลตอบแทนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด กองทุน DAOL-INNOVA จะกระจายการลงทุนผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป ทำให้กรอบการลงทุนเบื้องต้น จะให้น้ำหนักกับ 3 กองทุน ได้แก่ Invesco China Technology ETF, Global X MSCI China Consumer Discretionary ETF และ SPDR® MSCI Europe Consumer Discretionary UCITS ETF ในสัดส่วนเกินกว่า 20% เพราะแต่ละกองทุนมีการกระจายพอร์ตลงทุนครอบคลุมหุ้นนวัตกรรมทั้ง 5 ธีม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Technology, กลุ่ม Fintech Revolution, กลุ่ม Clean Energy, กลุ่ม Health Revolution หรือกลุ่ม Smart Mobility และลงทุนแบบเชิงรุก ทำให้ไม่พลาดจับจังหวะการลงทุนที่สำคัญ อีกทั้งยังสามารถบริหารพอร์ต และปรับสัดส่วนการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เชื่อมั่นว่า จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าดัชนีอ้างอิง คือ ดัชนี MSCI World Net Total Return USD Index