CHAYO หมดข่าวร้าย รอลุ้นการฟื้นตัวก้าวกระโดดปีนี้

2589 จำนวนผู้เข้าชม  | 

CHAYO หมดข่าวร้าย รอลุ้นการฟื้นตัวก้าวกระโดดปีนี้


หลังจาก บมจ. ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ออกมาให้ข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทฯ สามารถขายทอดตลาดที่ดินในจังหวัดพังงา ผ่านกรมบังคับคดีมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 มีนาคมปีที่แล้ว แต่ต่อมา มีผู้ร้องคัดค้านให้เพิกถอนผลการขายทอดตลาดดังกล่าว จนทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยศาลได้มีการนัดไต่สวนและสืบพยาน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ก่อนนัดฟังคำร้องผลการคัดค้านการเพิกถอนผลการขายทอดตลาดดังกล่าว ในวันที่ 20 ธันวาคมตามมา และในที่สุด ศาลได้มีคำสั่งยกเลิกคำร้องการคัดค้านการเพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ผลการขายทอดตลาดที่ดินเมื่อวันที่ 28 มีนาคมปีที่ผ่านมามีผลตามกฎหมายต่อไป ส่งผลให้บริษัทฯ น่าจะรับรู้กำไรได้ราว 200 - 300 ล้านบาท ภายในไตรมาสแรกปีนี้

โอกาสนี้ นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAYO ได้เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ในไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้ว มีการเร่งขายหนี้จากสถาบันการเงินออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดซื้อหนี้รวมเพิ่มเป็นกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ทะลุเป้าเดิมที่บริษัทฯ ตั้งเอาไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท และหนุนให้พอร์ตการบริหารหนี้แตะ 9.0 หมื่นล้านบาท ส่วนธุรกิจปล่อยสินเชื่อยังคงมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดว่าทั้งปีจะมียอดปล่อยสินเชื่อที่ 700-900 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจรับจ้างติดตามหนี้เริ่มฟื้นตัว โดยบริษัทฯ สามารถเซ็นสัญญาร่วมกับลูกค้าได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้คาดว่า รายได้รวมปีที่ผ่านมาจะเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 25% ได้

ในความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มองมุมบวกต่อ CHAYO เพราะราคาหุ้นตอบรับความผิดหวังเชิงลบไปมากแล้ว สวนทางปัจจัยบวกที่ทยอยเข้ามา ทั้งการเร่งซื้อหนี้ และข้อพิพาทที่คลี่คลายไปในทางบวก

ทรีนีตี้ (TNITY) บอกว่า การขายที่ดินแปลงดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรราว 200 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถบันทึกกำไรเข้ามาได้ในไตรมาสแรกปีนี้ทันที หากผู้ประมูลได้นำเงินมาชำระกับกรมบังคับคดี เพราะผู้ประมูลได้มีการมัดจำไว้กับกรมบังคับคดีแล้วราว 45 ล้านบาท หนุนให้กำไรปีนี้เติบโตสูงถึง 200% และบริษัทฯ มีเงินสดอีกกว่า 900 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนซื้อหนี้หรือปล่อยสินเชื่อต่อ

ในทางกลับกัน ยังมีความเป็นไปได้ด้วยว่า ผู้ร้องคัดค้านอาจยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งชี้ขาดคดี แต่มีโอกาสที่ศาลจะไม่รับอุทธรณ์เช่นกัน หากไม่มีประเด็นทางกฎหมาย หรือหลักฐานใหม่มานำเสนอ ทำให้ในเบื้องต้น คงราคาเป้าหมายที่ 11.70 บาท อิง P/BV ที่ 4.25 เท่า และแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากราคาหุ้น CHAYO อ่อนตัวลงค่อนข้างมาก สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ทำให้มี Upside ที่น่าสนใจ

ส่วนหยวนต้า (YUANTA) มองราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนประเด็นลบจากกำไรสุทธิไตรมาส 3 ที่อ่อนแอ และการประมูลหนี้ใหม่ที่ล่าช้าไปมาก สวนทางภาพระยะสั้นในไตรมาสสุดท้ายที่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น และยังมี upside จากการขายหลักประกัน NPL มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท หนุนกำไรพิเศษเพิ่มอีก 200-240 ล้านบาท ทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันมี upside 32.9% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปีนี้ที่ 10.50 บาท และแนะนำ "ซื้อ"




สำหรับโนมูระ พัฒนสิน (CNS) คาดแนวโน้มกำไรไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วอยู่ที่ 75 ล้านบาท เติบโต 54% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และ 109% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จากยอด Cash collection ที่คาดจะปรับขึ้นเล็กน้อย หนุนด้วยการขาย NPA แปลงใหญ่มูลค่า 40 ล้านบาท และแปลงเล็กราว 10 ล้านบาท ทำให้รายได้จาก NPA ไตรมาสสุดท้ายเพิ่มขึ้น ทำจุดสูงสุดรายไตรมาสของปี แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ซึ่งยังมีแนวโน้มสูงใกล้เคียงไตรมาส 3 จากคุณภาพสินทรัพย์ของหนี้ไม่มีหลักประกัน ทำให้ในเบื้องต้น คงประมาณการกำไรปีที่ผ่านมาที่ 243 ล้านบาท (+11% YoY) และกำไรปีนี้ที่ 312 ล้านบาท (+28% YoY) โดยยังไม่คิดรวมการขายที่ดินจังหวัดพังงาในประมาณการ แต่หากนับรวมกำไรเพิ่มเข้ามาในงบการเงิน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 240 ล้านบาท จะทำให้มี upside เพิ่ม 77% และพร้อมปรับเพิ่มประมาณการจากที่ให้ไว้ล่าสุดที่ 11 บาท หลังมีความชัดเจนเรื่องการขายที่ดินจังหวัดพังงาทอดตลาดแล้ว เหมาะเก็งกำไรและลงทุนระยะกลาง-ยาว

สำหรับดาโอ (DAOL) มองค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ให้ราคาเป้าหมายเบื้องต้นที่ 9 บาท อิง P/BV ปีนี้ที่ 2.1 เท่า (เทียบเท่า -1 SD below 5-yr average P/BV) ถึงแม้จะมีปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ทั้งจากโอกาสขายที่ดินในพังงาที่จะจบในไตรมาสแรก และการฟื้นตัวของกำไรสุทธิงวดไตรมาสสุดท้ายปีก่อนที่ขยายตัวทั้ง YoY และ QoQ ตามรายได้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เพราะยังกังวลกับต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น และความสามารถในการบริหารหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ไม่หลักประกัน อาจกดดันให้บริษัทฯ ต้องตั้งสำรองสูงขึ้น ทำให้ยังคงให้น้ำหนักกับการที่ราคาหุ้นควรซื้อขายแบบมีส่วนลด (discount) จากอดีต

อย่างไรก็ตาม อาจมีการทบทวนประมาณการอีกครั้งในโอกาสต่อไป เพราะราคาหุ้นยังมี upside เช่นกัน จากเงินทุนที่ได้จากการขาย NPA ช่วยผลักดันให้ CHAYO สามารถซื้อหนี้ได้เพิ่มขึ้นถึง 2.5 พันล้านบาท อีกทั้งยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวของรายได้จากธุรกิจรับจ้างติดตามหนี้หลังจากชะลอตัวต่อเนื่องในช่วงวิกฤตโควิด และการที่บริษัทฯ พร้อมเริ่มปล่อยสินเชื่อ "ยืมมั๊ย" (buy now play later) และอุปกรณ์ IT ให้นักศึกษาในปีนี้

ขณะที่มุมมองนักวิเคราะห์ในสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Concencus) ให้ราคาเฉลี่ยไว้ที่ 10.55 บาท 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้