FSS แย้มกำไรปกติ CH ปีหน้าโตอีก 20.8% หลัง 9 เดือนปีนี้พลิกขาดทุนมาเป็นกำไร

2392 จำนวนผู้เข้าชม  | 

FSS แย้มกำไรปกติ CH ปีหน้าโตอีก 20.8% หลัง 9 เดือนปีนี้พลิกขาดทุนมาเป็นกำไร

บมจ. เจริญอุตสาหกรรม (CH) รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ มีรายได้จากการขาย 470.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 43.60 ล้านบาท เติบโต 42% YoY หนุนให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ พลิกจากขาดทุนสุทธิ 53.96 ล้านบาท มาเป็นมีกำไรสุทธิ 110.93 ล้านบาท หรือเติบโต 105.75% YoY 

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CH ชี้แจงว่า การเติบโตของกำไรมีสาเหตุจากยอดขายผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 26.19% ขณะที่ยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้น 25.51% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ประกอบกับสถานการณ์ขาดแคลนเรือและตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการส่งสินค้าระหว่างประเทศคลี่คลายลง อีกทั้งยังได้อานิสงค์จากต้นทุนราคามะม่วง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตผลไม้อบแห้งมีราคาถูกลงจากปีก่อน จึงทำให้ต้นทุนผลิตสินค้าต่อหน่วยลดลง หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ผลักดันให้ความสามารถทำกำไรดีขึ้น 

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จะพบว่า รายได้จากการขาย และกำไรปกติ (หักรายการพิเศษ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 21.1 ล้านบาท) จะชะลอตัวลง 8.7% และ 44.7% ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล เพราะไตรมาส 2 เป็นช่วง peak season ของธุรกิจ อีกส่วนหนึ่งเกิดจากค่าใช้จ่ายบริหารและภาษีจ่ายสูงกว่าคาด โดยโครงสร้างรายได้ยังไม่เปลี่ยนแปลง หลักๆ มาจากผลไม้อบแห้ง 84.5% ปลากระป๋อง 14.9% และขนมเพื่อสุขภาพ 0.6% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20.7% ใกล้เคียงไตรมาสก่อนที่ทำได้ 20.8% 

ซึ่งเมื่อถอดงบการเงิน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ชี้ว่า ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ทั้งรายได้จากการขายที่เติบโต 26.7% YoY โดยปลากระป๋องมีอัตราขยายตัวสูงสุด 35.4% ตามมาด้วยผลไม้อบแห้งที่เติบโต 25.7% และขนมเพื่อสุขภาพที่ขยายตัว 16.3% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นเป็น 19.8% เทียบกับช่วง 9 เดือนปีก่อนที่ทำได้ 17.3% ขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่นยังคุมได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรปกติอยู่ที่ 68.8 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 298.6% YoY แต่ถือว่า ต่ำกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ฯ คาดไว้ จึงทำให้ประมาณการกำไรปกติทั้งปีอาจมี downside จากที่คาดไว้ 1,099 ล้านบาท   

สำหรับทิศทางการเติบโตในปีหน้า FSS ยังเชื่อมั่นว่าจะสดใสรับสถานการณ์การขนส่งสินค้าที่คลี่คลาย ถึงแม้เศรษฐกิจของคู่ค้าจะชะลอ แต่จะไม่กระทบต่อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ซึ่งอยู่ในกลุ่มอาหารและขนม ที่มีราคาต่อหน่วยไม่แพง นอกจากนี้ การใช้โรงงานที่กัมพูชาเป็นฐานในการส่งออกมะม่วงอบแห้งไปยังยุโรปเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ยังจะช่วยลดอัตราภาษีจ่าย จึงคงประมาณการกำไรปกติปีหน้าที่ 1,328 ล้านบาท ตามเดิม พร้อมคงราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 5.50 บาท (อิง P/E 33 เท่า ใกล้เคียง JDF, PLUS, GLOCON และผู้ประกอบการในกลุ่มอาหาร)

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้