ได้เวลา ITEL กำไรมีแนวโน้มพลิกฟื้น แถมมูลค่าหุ้นยังจูงใจ

2611 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ได้เวลา ITEL กำไรมีแนวโน้มพลิกฟื้น แถมมูลค่าหุ้นยังจูงใจ

หลังจาก บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) เปิดเผยผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ ว่า มีรายได้รวม 771.7 ล้านบาท โดยเป็นรายได้เฉพาะส่วนของบริษัทฯ 727.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 32.27% โดยมีกำไรสุทธิ 53.8 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) 16% เนื่องจากต้นทุนจากงานติดตั้งโครงข่ายโครงการหนึ่งเพิ่มขึ้น จนกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลง ขณะเดียวกัน การรับรู้งานรับเหมาที่ล่าช้าของ บริษัท บลูโซลูชั่น (BS) มีผลให้กำไรลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) 19%

สำหรับงวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% YoY และมีกำไรสุทธิ 185 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY สาเหตุจากบริษัทฯ มีการเติบโตในทุกธุรกิจ ตามความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังสามารถรักษาฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ และต่อยอดความสำเร็จด้วยการขยายบริการเพิ่มเติม อาทิ งาน Drone & Anti-Drone งาน Smart CCTV และอื่นๆ โดยอาศัยจุดแข็งจากโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพของโครงข่ายที่เหนือระดับ ทำให้มีศักยภาพการแข่งขันเหนือคู่แข่งในตลาด สร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า

นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ มีความชำนาญงานติดตั้งโครงข่าย จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่เป็นค่ายมือถือต่างๆ ให้ขยายโครงข่ายเพิ่มเติม จะยังเป็นอีกปัจจัยในการขับเคลื่อนให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตโดดเด่น ขณะที่งานให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ จะมีรายได้ที่มั่นคงช่วยผลักดันการเติบโตเช่นเดียวกัน


"ผลประกอบการงวด 9 เดือนของปีนี้ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ทั้งรายได้และกำไรที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เป็นผลจากการเติบโตของรายได้ทุกประเภท อย่างไรก็ตามอัตรากำไรสุทธิของบริษัทลดลง จากผลกระทบของเงินเฟ้อ ที่ทำให้ต้นทุนราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าไฟฟ้า รวมถึงต้นทุนดอกเบี้ยระยะสั้นปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการวางบิลในช่วงสิ้นไตรมาสนี้ถึง 1,496 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับชำระเงินในไตรมาส 4 แน่นอน" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITEL กล่าวสรุป
 
โอกาสนี้ นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITEL ยังกล่าวถึงแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้ด้วยว่า คาดมีการเติบโตต่อนื่อง ตามการฟื้นตัวของรายได้จากธุรกิจติดตั้งโครงข่ายที่จะมีการส่งมอบงานเพิ่มขึ้น และยังจะเห็นความชัดเจนจากการได้งานใหม่ๆ ที่บริษัทฯ ยื่นประมูลไปกว่า 1,000 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่าสัญญาในมือ (Contract on Hand) อยู่ที่ 2,803 ล้านบาท

และไม่ต้องรอนาน เพราะล่าสุด บริษัทฯ ชนะงานประกวดราคาจ้างพัฒนาระบบการจัดการงบประมาณอิเล็กทรอนิกส์ (New e-Budgeting) เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 ระบบ คิดเป็นมูลค่างานรวม 636.50 ล้านบาท โดยงานพัฒนาการจัดการงบประมาณอิเล็กทรอนิกส์ (New e-Budgeting) ครั้งนี้ จะช่วยยกระดับงานด้านงบประมาณของประเทศจาก Traditional เป็น Paperless มากขึ้น สามารถอัพเดทข้อมูลและเรียกดูข้อมูลแบบ Real Time ช่วยเชื่อมโยงข้อมูลทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานได้รวดเร็วขึ้น ช่วยให้การบริหารงบประมาณของประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาประเทศในอนาคต

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีแผนขยายดาต้า เซ็นเตอร์แห่งใหม่ ETIX Bangkok 2 ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าแห่งแรกถึง 3 เท่าคาดว่าจะมีความชัดเจนช่วงปลายปีนี้ เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้ารายใหญ่ที่ลงนามในสัญญาแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้าต่างชาติอีกหลายรายที่มีความต้องการใช้งานศูนย์ข้อมูลที่มีคุณภาพและสามารถรองรับการเติบโตในอนาคตได้อย่างครบวงจร

 



นอกจากนี้ ITEL ยังเล็งเห็นโอกาสเติบโตในธุรกิจของบลูโซลูชั่น (BS) จึงมีแผนนำ BS เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปีหน้า โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่างการหารือร่วมกับที่ปรึกษาทางเงินเพื่อจัดทำไฟลิ่งตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เบื้องต้น ค่ายฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ผ่างบการเงินแบบละเอียด โดยระบุว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3 ต่ำกว่าคาด 7% จากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจบริการโครงข่าย ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 44% ของรายได้รวมต่ำกว่าคาด โดยอยู่ที่ 22.7% จาก 24.7% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 23.7% ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว

ในส่วนของรายได้รวมแย่น้อยกว่าคาด เพราะชะลอตัวแค่ 10.7% QoQ ดีกว่าฝ่ายวิเคราะห์ฯ คาดไว้ว่าจะชะลอตัวถึง 18.0% QoQ เนื่องจากรายได้จากธุรกิจติดตั้งโครงข่ายยังทำได้ดี อยู่ที่ระดับ 401.3 ล้านบาท แม้จะลดลงจากไตรมาสก็ตาม ประกอบกับมีการรวมรายได้จาก BS เข้ามา ทำให้รายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 45.7% YoY ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 17.9% ต่ำสุดในรอบปีนี้ จากต้นทุนของธุรกิจบริการโครงข่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีบทบาทต่อกำไรขั้นต้นสูงคิดเป็นสัดส่วน 55.6% ของกำไรขั้นต้นรวม อีกท้ั้งยังมีแรงกดดันจากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ย บั่นทอนกำไรในไตรมาสนี้เช่นกัน

สำหรับแนวโน้มไตรมาสสุดท้ายปีนี้ FSS หวังว่า ITEL จะทำกำไรได้ราว 90 ล้านบาท จาก Backlog ที่เพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านบาท จึงยังคงประมาณการกำไร 3 ปีนี้ (2656-67) โตเฉลี่ย 34.6% พร้อมคงราคาเป้าหมายที่ 5.50 บาท (Full dilution) อิง P/E 32 เท่า คิดเป็น PEG 0.9 เท่า ตามเดิม โดยให้เหตุผลว่า เชื่อมั่นว่ากำไรปีหน้าจะกลับมาเติบโตสูง 39.2% YoY ทำให้ P/E ลดลงจากปีปัจจุบัน 23 เท่า เหลือ 16.5 เท่า และ EV/EBITDA เหลือเพียง 8.4 เท่า และแนะนำ "ซื้อ"

ส่วนดาโอ (DAOL) ยังคงประมาณการกำไรปีนี้ที่ 264 ล้านบาท (+5% YoY) โดยคาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ฟื้นตัวเด่นจากการเลื่อนรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 และเข้าช่วง high season จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 5.50 บาท อิงวิธี DCF  

ที่สำคัญ ราคาหุ้นล่าสุดแกว่งบริเวณ PER 22 เท่า ยัง laggard peers เมื่อเทียบธุรกิจใกล้เคียงกัน ซึ่งซื้อขายบนค่าเฉลี่ยราว 30 เท่า ถือได้ว่า น่าจะ price in ประเด็นการรับรู้รายได้ที่ล่าช้า รวมถึงการเลื่อนประมูลโครงการใหญ่ไปพอสมควร จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นหุ้นกลับมา outperform ตลาดได้อีกครั้ง จากการกลับมาให้ความสนใจการเข้าสู่ Digital economy ซึ่งจะช่วยหนุนผลดำเนินงานของบริษัทฯ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้