EA พร้อมเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าฝีมือคนไทยรุ่นแรก MT30 ตั้งเป้ายอดขาย 3 พันคัน ต่อยอดรายได้ EV ปีหน้าโดดเด่น

บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้า 100% ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทในกลุ่ม ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น ซึ่งทำธุรกิจผลิตและประกอบยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบพลังงานไฟฟ้า 100% โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในการยกระดับการขนส่งเชิงพาณิชย์จากฝีมือคนไทย พัฒนารถกระบะไฟฟ้า EV Mini Truck MT30 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Respect Environment" รุ่นแรกของไทย 

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA บอกว่า เพื่อช่วยขับเคลื่อนสังคมไทยให้ปลอดคาร์บอนได้เร็วยิ่งขึ้น และสร้าง New S-Curve ตามยุทธศาสตร์ของประเทศ บริษัทฯ ได้ออกแบบและพัฒนา EV Mini Truck MT30 รถกระบะไฟฟ้า 100% ขนาด 1 ตัน ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (Li-Ion Battery) ขนาด 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ผลิตโดย อมิตา เทคโนโลยี ประเทศไทย) สามารถขับเคลื่อนได้ไกลกว่า 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ในเวลา 15 นาที (30-80%) ซี่งจะช่วยประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า อีกทั้งยังช่วยลดมลพิษในภาคขนส่ง เหมาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้ให้บริการขนส่ง (การส่งจดหมายและพัสดุ) และธุรกิจค้าปลีก (ห้างสรรพสินค้า และซุปเปอร์มาร์เก็ต)  

สำหรับจุดเด่นของรถกระบะไฟฟ้า EV Mini Truck MT30 อยู่ที่เทคโนโลยี DC Fast Charge จาก EA Anywhere ซึ่งถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานยานยนต์เชิงพาณิชย์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด มีมิติตัวรถ ยาว 4,585 มม. x กว้าง 1,750 มม. x สูง 1,940 มม. พร้อมกระบะแบบเรียบเปิดได้ 3 ด้าน พื้นที่บรรทุกถึง 2.5 ม. x 1.58 ม. มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ Solid White, Pastel Yellow/White, Pastel Pink/White, Pastel Sky Blue/Black, Pastel Green/Black และ Pastel Gray/Black) ราคารุ่นสีมาตรฐาน 748,500 บาท รุ่นพิเศษสี Pastel Edition ราคา 766,500 บาท ซึ่งเป็นราคาหลังหักส่วนลดจากมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล 1.5 แสนบาทแล้ว พร้อมเปิดให้จอง ที่บูธ B11 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ (Motor Expo 2022) ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ โดยตั้งเป้ายอดขาย EV Mini Truck MT30 ราว 3 พันคัน เพราะบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบรถได้ตั้งแต่กลางปีหน้าเป็นต้นไป

โอกาสนี้ ผู้บริหาร EA เปิดใจด้วยว่า น่าจะเห็นผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ (New high) สาเหตุหลักจากการทยอยส่งมอบรถเมล์ไฟฟ้าได้ครบ 1 พันคัน หนุนด้วยรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ที่ยังสร้างรายได้มั่นคงจนถึงปีหน้า ตามยอดขายไฟฟ้าที่เติบโตต่อเนื่อง และการได้เงินอุดหนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Feed-in Tariff) ผลักดันให้รายได้ทั้งปีโตตามเป้าหมาย 20% ตามที่ตั้งเอาไว้

สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์ เบื้องต้น ค่ายยูโอบี เคย์เฮียน (UOBKH) คาดว่า EA จะมีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งเฉลี่ย 3 ปีนี้ (2565-67) ในอัตรา 14% สาเหตุหลักจากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ ที่โดดเด่น เข้ามาหนุนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าหมุนเวียนที่ยังเติบโตมั่นคงต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังจะมี upside เพิ่มจากการชนะการประมูลโครงการด้านลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ภาครัฐเตรียมเปิดประมูลรอบใหม่ จำนวน 5,203 เมกะวัตต์ (MW) เพราะบริษัทฯ มีประสบการณ์ในโครงการพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการขยายตลาดขนส่งมวลชนในมาเลเซีย และการขยายตลาดรถกระบะไฟฟ้า ผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตก้าวกระโดด  

ค่ายสีแดงรายนี้ ให้ราคาเป้าหมายโดยวิธีประเมินมูลค่าแยกตามธุรกิจ (SOTP) ไว้ 100 บาท แบ่งเป็นมูลค่าจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 37.40 บาท มูลค่าจากธุรกิจไบโอดีเซล 1.40 บาท มูลค่าจากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า 36.00 บาท และมูลค่าจากธุรกิจแบตเตอรี่ 20.60 บาท

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 ปีนี้ UOBKH ประเมินว่า EA จะมีกำไรสุทธิ 2.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) ในอัตรา 43% และ 112% ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากผลดําเนินงานที่แข็งแกร่งในธุรกิจแบตเตอรี่ และ EV ซึ่งคาดว่าจะมีการส่งมอบรถเมล์ไฟฟ้าประมาณ 700 คัน ผลักดันให้รายได้รวมในไตรมาส 3 กระโดดมาที่ 10.4 พันล้านบาท เติบโต 107% YoY และ 93% QoQ  ถึงแม้อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มจะลดลง 13.3 ppt เป็น 29.1% เนื่องจากการขยายธุรกิจใหม่ก็ตาม