เชียร์ซื้อ MC หลังกำไรขั้นต่้นดี กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้น ตอกย้ำภาพ Dividend Stock และหวัง upside จากราคา

1558 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เชียร์ซื้อ MC หลังกำไรขั้นต่้นดี กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้น ตอกย้ำภาพ Dividend Stock และหวัง upside จากราคา

บมจ. แม็คกรุ๊ป (MC) ธุรกิจค้าปลีกสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ "แม็คยีนส์” รายงานผลดำเนินงานงวดปีบัญชี 2565 (เริ่ม 1 กรกฎาคม 2564 ถึง 30 มิถุนายน 2565) ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้ารวม 2,923 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากร้านค้าปลีกตัวเอง (Freestanding Shop) จำนวน 1,792 ล้านบาท, ห้างสรรพสินค้า (Department Store) จำนวน 664 ล้านบาท, ซูเปอร์สโตร์ (Superstore) จำนวน 19 ล้านบาท และช่องทางออนไลน์  (E-Commerce) จำนวน 303 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) รายได้จะลดลง 9.2 % สาเหตุสำคัญมาจากช่องทางจำหน่ายออฟไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางสร้างยอดขายหลักยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด

กระนั้น บริษัทฯ กลับมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 9% YoY เป็น 486 ล้านบาท สาเหตุหลักจากบริษัทฯ สามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิให้สูงขึ้นเป็น 16.5% เทียบกับ 13.7% ในปีก่อน ตามอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 64.7% สูงกว่าปีก่อน 5.1% แม้จะถูกบั่นทอนจากภาระภาษีจ่ายที่เพิ่มขึ้นจาก 14.9% ในปีก่อน เป็น 18.0% ก็ตาม 

โอกาสนี้ นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MC อธิบายเหตุผลที่ทำให้บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้ว่า เกิดจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาด สัดส่วนของสินค้า และการบริหารช่องทางจัดจำหน่าย ควบคุมค่าใช้จ่ายรอบด้าน ทั้งยังมีการป้องกันความเสี่ยงจากการขึ้นราคาวัตถุดิบ ส่งผลให้สามารถบริหารกำไรขั้นต้นให้เพิ่มสูงขึ้น แม้รายได้จากการขายสินค้ารวมลดลง ขณะเดียวกัน ยังสามารถบริหารส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ให้เพิ่มขึ้นแตะ 3,675 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 72 ล้านบาท ขณะที่อัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ก็ปรับสูงขึ้นแตะ13.4% จากที่อยู่ระดับ 12.4% ในปีก่อน

 



สำหรับฐานะการเงินของบริษัทฯ ล่าสุด ยังคงเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน (Net Cash) จึงไม่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะเดียวกันยังมีเงินสดในมือเพิ่มขึ้นเป็น 1,995 ล้านบาท จากที่ทำได้ปีก่อนที่ 1,864 ล้านบาท ส่วนต้นทุนสินค้าคงคลังก็ลดลงจากปีก่อน 50 ล้านบาท อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

โอกาสนี้ MC เตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.28 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พฤศจิกายน และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

สำหรับเป้าหมายการทำธุรกิจในงวดบัญชีปี 2566 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MC บอกว่า ตั้งเป้ากำไรเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รับการเปิดประเทศ และการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ กระตุ้นกำลังซื้อให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังเห็นสัญญาณการกลับมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นชัดเจนในไตรมาสสุดท้ายของงวดบัญชีปีก่อน  

สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินเป้าหมายการเติบโตเบื้องต้นไว้ 14-18% ตรงกับที่ผู้บริหารประกาศเป้าหมายไว้ เพราะเห็นภาพเชิงบวก ทั้งจากผลดำเนินงานงวดไตรมาสสุดท้าย (เริ่ม 1 เมษายน 2565 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2565) เติบโตดี ทั้งปีต่อปี และไตรมาสต่อไตรมาส จากการฟื้นตัวของยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้น ประกอบกับยอดขายช่วงเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม กลับไปอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดวิดฤตโควิด สะท้อนให้เห็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ หนุนด้วยการท่องเที่ยวในประเทศที่เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ สร้างความมั่นใจเรื่องกำลังซื้อที่ดีขึ้น ทำให้คาดว่า MC จะสามารถรักษาระดับอัตรากาไรขั้นต้นที่ทำได้ดีกว่าคาดได้อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำภาพการเป็นหุ้นปันผลได้อย่างต่อเนื่อง

หยวนต้า (YUANTA) บอกว่า ยังคงประมาณการกำไรปกติสำหรับงวดบัญชีปี 2566 ที่ 535 ล้านบาท เติบโต 14% YoY แต่มีโอกาสปรับประมาณการกำไรในอนาคต แนะนำ "ซื้อลงทุน” จากการเป็น Dividend Stock ที่ให้เงินปันผล (Dividend Yield) ในอัตรา 6-7% และมีฐานะการเงินเป็น Net Cash โดยให้ราคาเหมาะสมสิ้นปีงบการเงิน 2566 ที่ 11.50 บาท อิงวิธี DCF

เช่นเดียวกับทิสโก้ (TSC) ที่มีมุมมองคล้ายกัน แต่ให้มูลค่าเหมาะสมไว้สูงกว่าที่ 12.80 บาท เพราะคาดกำไรสุทธิงวดบัญชีปี 2566 จะเติบโต 17% มาอยู่ที่ 566 ล้านบาท 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้