1720 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากในสัปดาห์ก่อน มีกระแสข่าวระบุว่า คณะอนุกรรมการ 4 ด้าน ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกอบด้วยคณะอนุกรรมการด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง คณะอนุกรรมการด้านเศรษฐศาสตร์ คณะอนุกรรมการด้านเทคโนโลยี และคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย เพื่อให้ศึกษาความเหมาะสมต่อกรณีการขอควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค (DTAC) ได้ลงมติคัดค้านการควบรวมกิจการ ด้วยคะแนนโหวต 3:1 โดยคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 3 ด้าน ยกเว้นด้านกฎหมาย ไม่เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการ จนกดดันให้ราคาหุ้น TRUE และ DTAC ปรับฐานลงมา 5-6%
แต่ต่อมา นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการสำนักงาน กสทช. ได้ออกมายืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เนื่องจากคณะอนุกรรมการทั้ง 4 ด้าน ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำส่งให้สำนักงาน กสทช. จากนั้น สำนักงาน กสทช. จะนำข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการฯทั้ง 4 ด้าน มาประมวลผลร่วมกับความเห็นจาก Focus group และผลศึกษาของสำนักงาน กสทช.รวมถึงความเห็นของที่ปรึกษาอิสระ ที่ กสทช. จัดจ้าง เพื่อนำเสนอคณะกรรมการ กสทช. ชี้ขาดการควบรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัทฯ อีกครั้ง โดยสำนักงาน กสทช. มีกำหนดส่งรายงานความคิดเห็นต่อที่ประชุม กสทช. ในวันที่ 3 สิงหาคมที่จะถึงนี้
ถัดมา นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ออกมาให้ข่าวว่า พร้อมพิจารณาดีลควบรวมกิจการครั้งนี้ให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด โดยให้ความสำคัญกับเรื่องผลประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นประเด็นหลัก
ต่อกรณีนี้ นักวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม ICT จากทุกสำนักคิดตรงกันว่า การออกมาปฎิเสธข่าวของ กสทช. ช่วยให้ Sentiment เชิงลบที่มีต่อหุ้น TRUE และ DTAC คลี่คลายลงไป เพราะขั้นตอนการพิจารณาการควบรวมกิจการยังดำเนินต่อไปตามปกติ โดยมีความเป็นไปได้สูงที่การอนุมัติการควบรวมกิจการน่าจะเกิดภายในไตรมาส 3 นี้ ส่งผลให้กระบวนการควบรวมกิจการเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 4
อย่างค่ายทิสโก้ (TSC) ให้น้ำหนักต่อการอนุมัติการควบรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัทฯ เพื่อตั้งบริษัทใหม่ ในลักษณะการทำ 2 แบรนด์ (Dual brand) ระยะเวลา 3-5 ปี สูงถึง 90% โดยแนะนำแค่ “เก็งกำไร” สำหรับหุ้น DTAC กับ TRUE จากการที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ยกให้ ADVANC เป็น top pick ของกลุ่มมือถือ
ส่วนเมย์แบงก์ (MST) ระบุว่า ต้องติดตามต่อไปว่า กสทช. จะออกมาตรการที่เข้มงวดเกินคาดสำหรับการควบรวมกิจการครั้งนี้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไขเรื่องการกำหนดค่าบริการ และระยะเวลาในการทำ 2 แบรนด์ว่ายาวนานเพียงไร เพราะอาจส่งผลให้กระบวนการควบรวมกิจการต้องล่าช้าออกไป จนกระทบต่อการประหยัดต้นทุนของ TRUE ซึ่งจะมีผลต่อประมาณการกำไรหลักในปี 2569 ราว 28.3%
ในเบื้องต้น เพิ่มคำแนะนำ TRUE จาก "ถือ” เป็น "ซื้อ" เพราะคาดผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 11.6% แบ่งเป็น upside 10.1% จากราคาเป้าหมาย 5 บาท และอัตราเงินปันผลตอบแทน 1.5% ในปีหน้า และคงแนะนำ "ซื้อ" DTAC (ราคาเป้าหมาย 51.10 บาท) เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับฐานจากข่าวจนต่ำกว่าราคาเสนอซื้อแบบสมัครใจ (VTO) ของทั้ง TRUE และ DTAC ที่หุ้นละ 5.09 บาท และ 47.76 บาท ตามลำดับ คำนวณจากสูตรการแลกหุ้นระหว่าง 2 บริษัทฯ ที่กำหนดไว้ว่า 1 หุ้น TRUE แลกได้ 0.60018 หุ้นของบริษัทใหม่ ส่วน 1 หุ้น DTAC แลกได้ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่
ขณะที่กสิกรไทย (KS) แนะนำ "ซื้อ" DTAC เพราะมีปัจจัยผลักดันราคาหุ้นชัดเจน ทั้งการควบรวมกิจการเสร็จสื้นเร็วกว่าที่คาด และมูลค่าการผนึกกำลังที่สูงเกินคาด สำหรับนักลงทุนแบบเก็งกำไร ควร "ซื้อ” เมื่อตลาดลดความคาดหวังต่อดีลควบรวมกิจการ และ "ขายทำกำไร” เมื่อตลาดมีความมั่นใจมากเกินไปเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ
ในทางกลับกัน หากการควบรวมกิจการประสบความล้มเหลว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ความสนใจของหุ้นกลุ่มมือถือจะหมดไป และต้องปรับลดมูลค่าเพิ่มสำหรับราคาเป้าหมายของ ADVANC ลงมา 45.35 บาท ส่วน DTAC และ TRUE อาจต้องปรับลดมากถึง 24.86 บาท และ 2.33 บาท หรือหากมาตรการของ กสทช. ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการควบรวมกิจการ หรือการแข่งขันหลังควบรวมกิจการยังมีความรุนแรง อาจต้องปรับลดมูลค่าเพิ่มจากการควบรวมกิจการของทั้ง DTAC และ TRUE ตามมา