1071 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. เฮลท์ลีด (HL) ธุรกิจร้านขายยาในรูปแบบ Chain Drug Store ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปีนี้ สรุปได้ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดด 110% จากที่มีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท ในไตรมาสแรกปีก่อน เพิ่มเป็น 30 ล้านบาท
ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HL ชี้แจงสาเหตุที่ทำให้กำไรเติบโตก้าวกระโดดว่า เกิดจาก 2 ปัจจัย คือ การที่ยอดขายเติบโต อันเป็นผลมาจากการขยายสาขาเพิ่ม 1 แห่ง ทำให้มีจำนวนสาขาให้บริการเพิ่มเป็น 27 แห่ง และการมีฐานสมาชิกเพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ และสินค้าเพื่อสุขภาพ เพื่อดูแลและป้องกันตัวเองจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนอีกปัจจัยหนึ่ง เกิดจากบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 23.9% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 22.3%
แม้ผลดำเนินงานไตรมาสแรกจะออกมาแข็งแกร่ง แต่บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้แบบอนุรักษ์นิยม ที่ 1,216 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อนอย่างน้อย 10% ขับเคลื่อนโดยการเพิ่มสาขา การเพิ่มฐานสมาชิก การการขยายช่องทางจัดจำหน่าย และการออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ให้หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่มอายุ
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่จำนวน 10 สาขา หลังจากเปิดให้บริการแล้ว 1 สาขา ในไตรมาสแรก บริเวณซอยทองหล่อ ส่วนไตรมาสสองนี้ เปิดไปแล้ว 1 สาขา ที่ซอยลาซาล และจะทยอยเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง ในช่วง 2 เดือนที่เหลือของไตรมาสนี้ ส่วนอีก 5 สาขาที่เหลือ พร้อมเปิดตัวในครึ่งปีหลัง เน้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง
สำหรับรูปแบบการเปิดสาขาใหม่ แบ่งเป็นร้านขนาดกลาง พื้นที่ใช้สอย 80-150 ตารางเมตร จำนวน 8 สาขา ใช้งบลงทุนสาขาละ 2.00-3.75 ล้านบาท และเป็นร้านขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 150-300 ตารางเมตร จำนวน 2 สาขา ใช้งบลงทุนสาขาละ 3.75-6.00 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเร่งเพิ่มพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ภายใต้แบรนด์ตัวเอง เพื่อเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงจะขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ PRIME และ BESUTO ให้มากขึ้น เพื่อผลักดันให้ธุรกิจสามารถเติบโตก้าวกระโดดในระยะยาวอย่างที่คาดหวัง