BBL กำไรสุทธิไตรมาสแรก 7,118 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน

บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ประกาศผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 7,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ตามการเติบโตของสินเชื่อ หนุนให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 10.4%  โดยมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 2.1% แต่เนื่องจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีการปรับลดลงถึง 16.1% ทั้งจากธุรกิจบัตรเครดิต บริการประกันผ่านธนาคาร และกองทุนรวม ทำให้ภาพรวมกำไรอยู่ในลักษณะทรงตัว

ส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง 1.6% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 49.8% ขณะที่อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.3% กระนั้น อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งโดยเพิ่มขึ้นเป็น 229.0% เช่นเดียวกับสัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่หนึ่ง ที่ธนาคารควบคุมให้อยู่ในระดับ 16.0%  สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มในช่วงที่เหลือปีนี้ ธนาคารพร้อมให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงให้มีสมดุลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นยอดสินเชื่อ คุณภาพหนี้ ฐานะการเงิน หรือเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง เพราะประเมินว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะใช้เวลานาน และไม่เท่ากันในแต่ละธุรกิจ อย่างธุรกิจส่งออก น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้รวดเร็ว ในทางกลับกัน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและสันทนาการ น่าจะฟื้นตัวช้า

ขณะเดียวกัน BBL พร้อมเดินหน้าให้ความช่วยเหลือลูกค้าในแต่ละภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบในแต่ละช่วงที่ลูกค้าประสบปัญหา ด้วยการให้การสนับสนุนสภาพคล่องทั้งในระยะสั้นเพื่อประคับประคองให้ธุรกิจอยู่รอด และสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนเมื่อธุรกิจกลับมาฟื้นตัว รวมไปถึงให้คำแนะนำในการปรับรูปแบบการทำธุรกิจตามแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ตอกย้ำเจตนารมย์ของการเป็น “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” เพื่อสนับสนุนลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน