633 จำนวนผู้เข้าชม |
การที่นานาประเทศพยายามเร่งหาทางไกล่เกลี่ยเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน โดยสถานการณ์ล่าสุด ทางผู้นำอเมริกาและจีนมีการหารือเพื่อหาทางออกของสงครามครั้งนี้ โดยจีนมีท่าทีว่า อยากให้สงครามจบลงอย่างสันติวิธี แม้แต่ทางสหภาพยุโรปเอง ทางประธานาธิบดีมาครง ผู้นำฝรั่งเศส ก็พร้อมเข้ามาช่วยเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย - ยูเครนที่เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์เคทีบี ประเทศไทย (KTBST) ออกบทวิเคราะห์แนะนำทางเลือกในการลงทุนหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่ปรับตัวลงแรง และราคาหุ้นยังขึ้นไม่มาก (laggard) ซึ่งยังมีโอกาสกลับมา outperform ตลาดหุ้นไทย รวม 5 ตัวด้วยกัน คือ HANA, MINT, IVL, KBANK และ GUNKUL
โดย HANA ราคาหุ้นปรับตัวลงสะท้อนความกั งวล supply chain shortage โดยปัจจุบันราคาหุ้นยัง laggard กลุ่มที่ปรับตัวสูงขึ้น (ราคาหุ้น HANA ปรับตัวลดลง -18% เทียบกับ KCE ที่เพิ่มขึ้น +8% ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.-18 มี.ค.) และยังได้อานิสงส์จากราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโลกกลับมาปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง (ราคาเหมาะสม 70.00 บาท)
ส่วน MINT ราคาหุ้นยังฟื้นตัวช้ากว่ากลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4% ขณะที่ MINT ราคาหุ้นยังทรงตัว (14 ก.พ.-18 มี.ค.) โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ฯ ประเมินว่า MINT จะได้ประโยชน์จากสถานการณ์ความขัดแย้งที่เริ่มดีขึ้น ทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวยุโรปกลับมาดีขึ้น (สัดส่วนรายได้จากยุโรป 60%) และยังจะได้ประโยชน์จากไทยที่พร้อมผ่อนคลายการเปิดประเทศมากขึ้น (ราคาเหมาะสม 40.00 บาท)
เช่นเดียวกับ IVL ที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาสะท้อนความกังวลต่อการอ่อนตัวของอุปสงค์การใช้พลาสติก PET ในยุโรป จากผลกระทบของสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ฯ เชื่อว่าแนวโน้ม Industry Integrated PET spread ยังจะทรงตัวในระดับสูง อีกทั้งได้ประโยชน์จากการดำเนินงานเต็มไตรมาสของ Lake Charles Gas Cracker (IVOL) (ราคาเหมาะสม 55.00 บาท)
ขณะที่ KBANK ประเมินว่าราคาหุ้นจะกลับมา outperform ได้อีกครั้ง ขานรับแนวโน้มการท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวได้ดี หลังจากที่ไทยทยอยเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เพราะ KBANK มีสัดส่วนสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวราว 20% (ราคาเหมาะสม 172.00 บาท)
สำหรับ GUNKUL ราคาปรับตัวลงจากการถูกขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดผันผวน หลังเกิดสงคราม อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดจะกลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง หลังธุรกิจกัญชง-กัญชา ใกล้เปิดจำหน่ายเต็มรูปแบบต้นไตรมาส 2 ช่วยผลักดันรายได้ปีนี้ให้เติบโตโดดเด่น (ราคาเหมาะสม 6.45 บาท)