593 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา อนุมัติแผนแลกหุ้น "SCB" เป็น "SCBX" และนำหุ้น "SCBX" เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญในการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มไทยพาณิชย์ เพื่อเร่งขยายธุรกิจเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงินที่มีศักยภาพสูง และธุรกิจแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ มุ่งยกระดับองค์กรสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด และสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนและแข็งแรงให้กับผู้ถือหุ้นต่อไปในระยะยาว ซึ่งมีความเป็นไปได้ด้วยว่า มีโอกาสจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX รวมถึงธุรกิจใหม่ในอนาคต ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตและมีศักยภาพสูง
ล่าสุด นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการแลกหุ้นว่า SCBX จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อแลกเปลี่ยนกับหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของธนาคารในอัตรา 1 หุ้นสามัญของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX และ 1 หุ้นบุริมสิทธิของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX
อย่างไรก็ตาม การแลกหุ้นครั้งนี้จะไม่ได้เป็นไปโดยอัตโนมัติ แต่จะเกิดเฉพาะกรณีที่ผู้ถือหุ้น SCB ทำการ "ตอบรับ" คำเสนอซื้อหลักทรัพย์แล้วเท่านั้น โดยจะเริ่มกระบวนการแลกหุ้นตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ไปจนถึงวันที่ 18 เมษายนที่จะถึงนี้ และเมื่อกระบวนการแลกหุ้นแล้วเสร็จลงไป จะต้องมีจำนวนผู้ถือหุ้น SCB ที่ตอบรับคำเสนอซื้อไม่น้อยกว่า 90% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ SCB ถึงจะมีผลให้หุ้น SCBX สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ โดยผู้ถือหุ้น SCB ที่ได้ทำการแลกหุ้นเสร็จสมบูรณ์ตามกำหนดเวลา จะเปลี่ยนเป็นผู้ถือหุ้น SCBX แทน แต่จะยังคงใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ "SCB" เช่นเดิม
ส่วนผู้ถือหุ้นของ SCB ที่ไม่ได้ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในเวลาที่กำหนด จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของธนาคารต่อไป เพียงแต่จะไม่สามารถซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีก เพราะหลักทรัพย์ของธนาคารจะถูกเพิกถอนในวันที่หลักทรัพย์ของ SCBX เข้าจดทะเบียน