SCBAM และ WEASSET ออกเมนูใหม่ กองทุนต่างประเทศเน้นลงทุนใน MSCI Index กับธุรกิจน้ำ

บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดตัวกองทุนใหม่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ดัชนีหุ้นโลก (SCB World Equity Index- SCBWORLD) เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 24 – 29 พ.ย. นี้ เพื่อเป็นทางเลือกในการบริหารเงินให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงผลตอบแทนของดัชนี MSCI World โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ iShares MSCI World ETF ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค บริหารงานภายใต้ความดูแลของ BlackRock Fund Advisors

ทั้งนี้ กองทุนหลัก iShares MSCI World ETF กำหนดกรอบการลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี MSCI World ซึ่งเป็นดัชนีประกอบไปด้วยหุ้นขนาดใหญ่และกลางของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจำนวน 23 ประเทศ โดยเลือกลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น JPMORGAN CHASE & CO, AMAZON COM INC, JOHNSON & JOHNSON หรือ Apple เสริมด้วยการลงทุนในหุ้นบางตัวที่เป็นตัวแทนของหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง (Representative Sampling Indexing Strategy) อีกทางหนึ่ง ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้ ทำให้กองทุน iShares MSCI World ETF มีผลดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 12.52% และย้อนหลัง 1 ปี (นับถึงวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา) อยู่ที่ 39.24% เทียบกับดัชนีอ้างอิง MSCI World ซึ่งอยู่ที่ 12.31% และ 39.04% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ในสกุลเงินต่างประเทศที่กองทุนถืออยู่เทียบกับสกุลเงินบาท อาจมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 90% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ

พร้อมกันนี้ กองทุน SCBWORLD ยังเปิดให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ 2 รูปแบบ คือ การลงทุนแบบสะสมมูลค่า ผ่านกองทุน SCBWORLD (A) และการออมระยะยาว ผ่านกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว SCBWORLD (SSF) โดยกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท

ด้าน บลจ.วี (WEASSET) เปิดตัว กองทุนเปิด วี โกลบอล วอเตอร์ (WE-AQUA) ระหว่างวันที่ 19 - 29 พ.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่ประกอบธุรกิจทางน้ำ หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ผ่านกองทุนหลัก BNP PARIBAS AQUA FUND ที่ถือเป็นกระแสหลักทั่วโลก พุ่งเป้าไปที่หุ้น 3 กลุ่ม คือ ธุริกจที่ลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานน้ำ (Water Infrastructure) ที่รองรับความต้องการอุปกรณ์และบริการพื้นฐานต่างๆ  หรือลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพน้ำ (Water Treatment Efficiency) และธุรกิจสาธารณูปโภคน้ำ (Water Utilities) เช่น ระบบประปา การจัดหาน้ำดื่ม และการกลั่นน้ำทะเล

ทั้งนี้ สินทรัพย์ที่กองทุน BNP PARIBAS AQUA FUND ใช้เป็นแนวทางลงทุน นอกจากจะพุ่งประเด็นไปที่ธุรกิจที่มีรายได้เติบโตสูงจากการบริหารทรัพยากรน้ำ หรือธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตน่าสนใจแล้ว ยังจะต้องเป็นธุรกิจที่สนับสนุนคุณภาพชีวิตและการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอย่างยั่งยืน ผ่านมาตรฐานด้าน ESG อีกด้วย ซึ่งแนวทางดังกล่าวสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนคิดย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีได้ที่ 23.74 % ย้อนหลัง 3 เดือนที่ 4.40 % ย้อนหลัง 6 เดือน 12.62% และ 1 ปี อยู่ที่ 38.82 % เทียบกับดัชนี MSCI World (EUR) NR ที่ทำได้ 19.34%, 2.32%, 9.26%, และ 30.34 % ตามลำดับ