PTTEP กำไรไตรมาสแรก 1.65 หมื่นล้านบาท ลดเล็กน้อย ตามตลาดคาด

บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) ประกาศผลดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 16,561 ล้านบาท ลดลง 11% จากไตรมาสแรกปีก่อน (YoY) และลดลง 9% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) เป็นไปตามที่ตลาดคาด โดยสาเหตุที่กำไรลดลง YoY เกิดจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก ทำให้ราคาขายเฉลี่ย (ASP) ลดลง 3% มาอยู่ที่ 45.74 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ สวนทางต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น 6% เป็น 30.77 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จากค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง

ส่วนสาเหตุที่กำไรลดลง QoQ เป็นผลจากปริมาณขายเฉลี่ยที่ลดลง 3% เหลือวันละ 484,218 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จากการปิดซ่อมบำรุงโครงการบงกชตามแผนงาน และปริมาณขายที่ลดลงจากโครงการในโอมานและแอลจีเรียตามรอบส่งมอบน้ำมัน และต้นทุนต่อหน่วยที่สูงขึ้น 5%

อย่างไรก็ตาม นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชี้แจงว่า ปริมาณขายที่ลดลงในไตรมาสแรกน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว ก่อนจะเริ่มปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 มาอยู่ที่วันละ 500-505 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ หนุนจากการปิดซ่อมบำรุงในประเทศที่ลดน้อยลง และการขายน้ำมันในโอมานและแอลจีเรียที่มากขึ้น อีกทั้งในไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแหล่งอาทิตย์ กับ บมจ. ปตท. (PTT) ซึ่งเป็นผู้ซื้อ เพิ่มจากวันละ 280 ล้านลูกบาศก์ฟุต เป็นวันละ 330 ล้านลูกบาศก์ฟุต มีผลตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป รวมถึงรับรู้ปริมาณการผลิตในโครงการสินภูฮ่อมเพิ่มขึ้น ตามการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจากเกือบ 80.5% เป็น 90% ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นแหล่งปิโตรเลียมบนบกที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้เฉลี่ยวันละ 105 ล้านลูกบาศก์ฟุต และคอนเดนเสทวันละ 222 บาร์เรล ส่งผลให้ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง และทำได้ตามเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ วันละ 505-510 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ

สำหรับการพัฒนาโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage หรือ CCS) ที่โครงการอาทิตย์ ซึ่งคาดหมายว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปีละ 700,000 – 1,000,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า กำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาข้อตกลงต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายในเร็วๆ นี้