SYNEX ปักหมุดรายได้ปี 2568 4.7 หมื่นล้านบาท New All Time High ต่อเนื่องปีที่ 2

1732 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SYNEX ปักหมุดรายได้ปี 2568 4.7 หมื่นล้านบาท New All Time High ต่อเนื่องปีที่ 2





นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซินเน็ค ประเทศไทย (SYNEX) เปิดเผยแผนปี 2568 ว่า พร้อมสานต่อความเป็นผู้นำสินค้าเทคโนโลยีครบวงจรของไทย (Total Solution) ด้วยการส่งมอบสินค้านวัตกรรมที่ตอบเทรนด์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 70 แบรนด์ พร้อมบริการหลังการขายที่ช่วยยกระดับความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้บริโภค รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร ให้สอดคล้องไปกับการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี AI และระบบอัจฉริยะใหม่ๆ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากคลาวด์มากขึ้น ด้วยการมุ่งโฟกัสไปที่สินค้ารายกลุ่ม แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าแอปเปิ้ล, กลุ่มสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่, กลุ่มเกมมิ่งและแก็ดเจ็ต, กลุ่มคอมเมอร์เชียล, กลุ่มคอนซูเมอร์ และกลุ่มเอนเตอร์ไพรส์แอนด์โซลูชั่น เพื่อช่วยให้การทำตลาดในแต่ละกลุ่มสินค้ามีความเข้มแข็งมากขึ้น และสามารถบริหารความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยใช้กลยุทธ์ Product Mix มาช่วยบริหารจัดการ เพื่อผลักดันให้รายได้ปีนี้เติบโตจากปีก่อน 13% ขึ้นมาทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาล ที่ 47,300 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะผู้บริหารประเมินทิศทางตลาดไอทีปีนี้ว่า ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความต้องการลงทุนในโซลูชันด้านเทคโนโลยีของกลุ่มเอนเตอร์ไพรส์แอนด์โซลูชั่น และกลุ่มคอมเมอร์เชียล การเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆ ในกลุ่มสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการเปิดตัว Nintendo Switch รุ่นใหม่ ในไตรมาส 2 ช่วยกระตุ้นตลาดเกมมิ่งและอุปกรณ์เสริม รวมถึงการเข้าสู่ช่วงอัปเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รอบใหญ่หลังยุคโควิด จากแรงส่งของ Window12 และการทยอยเปิดตัว Notebook และ PC รุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้สินค้ากลุ่มคอนซูเมอร์กลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น

ขณะที่ผลดำเนินงานปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 627 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.5% จากปี 2566 ตามรายได้จากการขายและให้บริการที่เติบโตเพิ่มขึ้น 14.7% เป็น 41,904 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดตลอดกาล (All Time High) ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ขึ้นมา อานิสงค์จากการเติบโตอย่างโดดเด่นของกลุ่มสินค้าแอปเปิ้ล กับกลุ่มสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ รวมถึงความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียล และกลุ่มเอนเตอร์ไพรส์แอนด์โซลูชั่น ที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับระบบคลาวด์ และระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มจาก 1.40% เป็น 1.49% พร้อมกับประกาศจ่ายปันผลเพิ่ม ในอัตราหุ้นละ 0.34 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 2 พฤษภาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งหากคิดรวมเงินจ่ายปันผลระหว่างกาลที่จ่ายก่อนหน้านี้ ทำให้ทั้งปี บริษัทฯ จ่ายปันผลทั้งสิ้น 0.44 บาท




Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้