STECON พร้อมซื้อหุ้นคืน 150 ล้านหุ้น ดีเดย์ 18 มี.ค.- 17 ก.ย. 2568

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สเตคอน กรุ๊ป (STECON) เปิดเผยว่า เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการเพิ่มอัตราส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น รวมถึงช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการทำธุรกิจที่แข็งแกร่ง สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนถึงมูลค่าหุ้นที่แท้จริง คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) จำนวนไม่เกิน 150 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.87% ของหุ้นทั้งหมด เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม จนถึงวันที่ 17 กันยายนปี 2568 นี้ คิดเป็นวงเงินรวมไม่เกิน 900 ล้านบาท

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ กลุ่มบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจปี 2568 จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากปี 2567 ที่ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเฉพาะการเปลี่ยนวิธีรับรู้ทางบัญชีของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสีชมพู เพื่อไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนปีละ 500-600 ล้านบาท ช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นกลับขึ้นมายืนเหนือ 7% อีกครั้ง อีกทั้งยังคาดหวังรายได้มีโอกาสเติบโต 5-10% จากปีก่อน แตะ 3.2-3.3 หมื่นล้านบาท หนุนจากการได้รับงานรับเหมาก่อสร้างมูลค่ารวม 5.0 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายการเข้าร่วมประมูลงานโครงการกว่า 3.04 แสนล้านบาท แบ่งเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานราว 2.92 แสนล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่จิระ-อุบลราชธานี โครงการรถไฟสายสีส้ม ตะวันตก บางขุนนนท์ - มีนบุรี (ช่วงศูนย์วัฒนธรรม - บางขุนนนท์) โครงการมอเตอร์เวย์ยกระดับอุตราภิมุข รังสิต - บางปะอิน (M5) และมอเตอร์เวย์บางขุนเทียน - บางบัวทอง (M9) รวมถึงงานกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์จากภาคเอกชนอีก 1.22 หมื่นล้านบาท หนุนงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ยืนเหนือ 1.1 แสนล้านบาท ช่วยเสริมรายได้ให้กับบริษัทฯ ในปีหน้า และการเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ จากธุรกิจผลิตน้ำประปา ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการขนส่ง พร้อมกับสนับสนุนให้รายได้เพิ่มแตะระดับ 45,000 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 10% ในปี 2573 ตามแผนระยะยาวที่วางไว้