1599 จำนวนผู้เข้าชม |
นายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย (INET) ผู้ให้บริการ Local Cloud Service และ Digital Platform Service เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2568 ว่า ยังคงมุ่งมั่นในการทำหน้าที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มศักยภาพบุคลากร และองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุค 4.0 โดยใช้นวัตกรรมภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศให้น้อยลง ควบคู่ไปกับการมุ่งยกระดับการให้บริการเพื่อทำให้วิถีชีวิตของคนไทยดีขึ้น ตามกรอบ Digital Life ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อวัดคุณภาพชีวิตหรือศักยภาพของบุคคล (Life Scoring) การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือระบบที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI Assistant) เพื่อช่วยให้การทำงานสะดวกและรวดเร็วขึ้น การเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความเป็นอยู่ของบุคคล (Open Life Data) เพื่อให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง และการเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายงานต่างๆ (Domain Expert) ผ่านการพัฒนาคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) และต่อยอดไปถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มภายใต้ข้อมูลพื้นฐานที่อยู่บนคลาวด์ (Competing Platform Market) โดยวางแผนขยายตลาดกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุดของตลาด สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่มุ่งหวังเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน จากการมีลูกค้าใช้บริการเพิ่มเป็น 10,000 ราย และมีจำนวน VMI เพิ่มเป็น 120,000 VMIs หรือขยายตัวกว่า 86% ซึ่งจะทำรายได้ทั้งปีเติบโตเป็น 3,200 ล้านบาท ขยายตัว 27% จากปีก่อน
ขณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการได้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเติบโตอย่างก้าวกระโดดสอดรับการเติบโตในอนาคตของตลาด Data Center และ Cloud Service บริษัทฯ เตรียมลงทุนศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลแห่งใหม่ INET Data Center แห่งที่ 4 (INET-IDC4) ที่มีขีดความสามารถรองรับการให้บริการได้ถึง 300,000-600,000 VMI
สำหรับผลดำเนินงานปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการที่เติบโตขึ้น 21.1% จากปี 2566 มาอยู่ที่ 2,531.14 ล้านบาท โดยเฉพาะบริการ Cloud Service และ Digital Platform Service ที่มีสัดส่วนรายได้ถึง 87% ของรายได้จากบริการทั้งหมด ผลสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนกว่า 5,000 ราย ที่มุ่งทำ Digital Transformation ประกอบกับการที่บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนการขายและให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มจาก 11.15% เป็น 15.50% หนุนให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 64.3% มาอยู่ที่ 384.96 ล้านบาท และมีแผนจ่ายปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.119 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 30 เมษายนนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม