GABLE รับรายได้ปี 2568 ทำ New High ต่อเนื่องปีที่ 4 หลายปัจจัยหนุน

บมจ.จีเอเบิล (GABLE) หนึ่งในผู้นำ Tech Enabler ด้าน Digital Transformation ครบวงจร รายงานผลดำเนินงานปี 2567 มีรายได้จากการดำเนินงาน 6,172.70 ล้านบาท เติบโต 15.6% จากปี 2566 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 รับผลสำเร็จจากแผนขยายฐานลูกค้า ทำให้ได้งานรับเหมาวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและการสื่อสาร (ที่มีสัดส่วนรายได้สูงกว่า 75%) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโซลูชั่นด้าน Cloud และ Data Center หนุนให้รายได้กลุ่มธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระดับองค์กร เพิ่มขึ้น 744.15 ล้านบาท เป็น 4,713.37 ล้านบาท อีกทั้งยังเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ ที่เกิดจากจากการซื้อหุ้น 75% ในบริษัท ราวด์ ทู โซลูชั่นส์ (Round 2 Solutions) ตั้งแต่เดือนสิงหาคม สร้างรายได้ในกลุ่มธุรกิจแอปพลิเคชันทางธุรกิจเพิ่มเข้ามาอีก 197.21 ล้านบาท ที่สำคัญ ยังช่วยผลักดันให้ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นปีเพิ่มขึ้น 36% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 6,175 ล้านบาท อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทฯ ได้รับงานโครงการใหญ่ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ เข้ามาด้วย จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยทั้งปีลดลงจาก 20.6% ในปีก่อนหน้า ลงมาที่ 18.5% จึงส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง 6.1% มาอยู่ที่ 236.53 ล้านบาท แต่ยังคงจ่ายปันผลใกล้เคียงปีก่อนหน้า ที่หุ้นละ 0.2703 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 30 เมษายนนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 21 พฤษภาคม  

โอกาสนี้ นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GABLE ได้ชี้แจงแผนธุรกิจปี 2568 ว่า พร้อมต่อยอดความเป็น Tech Enabler เพื่อขับเคลื่อนรายได้ให้เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4  จากการเดินหน้า 3 กลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการครบวงจรแบบ Real End-to-end ผ่านการรวม Portfolio และเทคโนโลยีทั้งหมด รวมถึง Business Application ของกลุ่มบริษัทเข้าด้วยกัน ทั้งเพื่อลดต้นทุน และเสริมความแข็งแกร่งด้าน IT Infrastructure ให้พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อเข้ากับเทคโนโลยี AI (AI Ready) ที่เปลี่ยนผ่านจาก Predictive AI สู่ Generative AI และเป็น Agentic AI ในปัจจุบัน หรือการยกระดับบริการนำข้อมูลสำคัญต่างๆ ขึ้นไปบริหารจัดการในระบบคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (Cloud Migration) โดยอาศัยจุดเด่นของระบบคลาวด์ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง คิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง ช่วยให้ลูกค้าบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้า และเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง สอดคล้องกับเทรนด์ธุรกิจยุคดิจิทัล พร้อมต่อยอดไปสู่การเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ ทั้งในมุมของเทคโนโลยีและธุรกิจให้มากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับลูกค้า