QTC พร้อมรุกทุกธุรกิจ ปั้นรายได้ปี 2568 แตะ 1,800 ล้านบาท

นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งสร้างโอกาสการเติบโตธุรกิจสู่ความยั่งยืนในอนาคต ควบคู่กับการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างสมดุล สู่เป้าหมาย Carbon Neutrality & Net Zero ภายในปี 2593 ผ่านการ Transformation 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า ธุรกิจโซล่าร์ และธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2568 นี้เติบโตแตะระดับ 1,800 ล้านบาท

โดยธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า บริษัทฯ วาง Growth Strategy ด้วยการขยายตลาดต่างประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าคุณภาพสูง โดยพัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ และลดต้นทุน เพื่อสร้างความแตกต่างด้านประหยัดพลังงาน พร้อมกับนำเสนอบริการที่เป็นเลิศด้วยระบบ online Transformer Smart Monitoring ที่จะติดตั้งให้กับหม้อแปลงขนาดใหญ่ ผลักดันการเติบโตของรายได้ ทั้งจากตลาดต่างประเทศ ที่มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นจากการได้ลูกค้าใหม่ในยุโรป รวมถึงการส่งออกหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (ขนาด10MVA-30MVA) ไปยังออสเตรเลีย และการเติบโตต่อเนื่องของตลาดในประเทศ รับอานิสงค์จากความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ตามแผนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการชีวมวล และโครงการชีวภาพ และการเพิ่มสัดส่วนการประมูลหม้อแปลงประเภท Super Low Loss ของการไฟฟ้านครหลวงตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป รวมถึงการขยายฐานรายได้จากการพัฒนาหม้อแปลงประเภท Unit Substation สำหรับงานระบบสายไฟใต้ดิน เพิ่มเติมเข้ามา

ส่วนธุรกิจโซล่าร์ บริษัทฯ วางกลยุทธ์ขยายตลาดด้วยการเพิ่มคู่ค้าที่มีศักยภาพ ทั้ง Global Partner และ Local Partner ตลอดจนเพิ่มประเภทสินค้าให้ครอบคลุมธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และเพิ่มพันธมิตรทางการค้าที่หลากหลายในแต่ละกลุ่มสินค้า จากที่เป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ Inverter และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อย่าง HUAWEI, LONGI, FOX ESS และ SolarEdge เพื่อให้สามารถตอบความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น  

สำหรับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมรุกการลงทุนทุกกลุ่ม เพื่อสร้างรายได้จากการขายไฟฟ้าภายใต้สัญญาระยะยาว โดยจับมือกับพันธมิตร ขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มปีละ 4 สถานี เน้นไปที่สถานีบริการน้ำมัน และคอมมูนิตี้ มอลล์ ควบคู่ไปกับการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า สำหรับรถเชิงพาณิชย์ เพิ่มปีละ 10 สถานี เน้นในพื้นที่ของลูกค้า หรือเช่าพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ บริเวณนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ