WHA พร้อมปันผลหุ้นละ 0.0669 บาท ขึ้น XD 21 พ.ย. นี้  

1357 จำนวนผู้เข้าชม  | 

WHA พร้อมปันผลหุ้นละ 0.0669 บาท ขึ้น XD 21 พ.ย. นี้  



บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 459.2 ล้านบาท ลดลงจากทั้งช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ในอัตรา 26.3% และ 64.4% ตามลำดับ ตามรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรที่ลดลง 2.3% YoY และ 19.8% QoQ มาอยู่ที่ 2,681.3 ล้านบาท อีกทั้งยังถูกกดดันจากผลกระทบของค่าใช้จ่ายภาษีที่สูงกว่าปกติ เนื่องจากมีการบันทึกภาษีเงินได้จากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัทฯ รวมถึงผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น แต่หากตัดรายการพิเศษเหล่านี้ออกไป กำไรปกติจะอยู่ที่ 757.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% YoY แต่ลดลง 40.1% QoQ

ส่วนผลดำเนินงานงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น 18% YoY มาอยู่ที่ 9,954.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,112.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.7% YoY แต่หากตัดรายการพิเศษออกไป กำไรปกติจะทำได้ 3,311.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.5% YoY หนุนจากทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค (น้ำและไฟฟ้า) หรือธุรกิจดิจิทัล สอดรับกับกระแสการย้ายฐานการผลิตจากหลายภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง  

การเติบโตของธุรกิจช่วง 9 เดือน ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.0669 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 21 พฤศจิกายนนี้ ก่อนจ่ายเงินปันผลตามมา ในวันที่ 6 ธันวาคม   

โอกาสนี้ นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA ได้ออกมายืนยันอีกครั้งว่า น่าจะเห็นการเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากพัฒนาการของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายตามแผนที่วางไว้ โดยกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม คาดมียอดขายทั้งปี 2,500 ไร่ เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ที่คาดเพิ่มพื้นที่เช่าสุทธิ 200,000 ตารางเมตร และมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHAIR เพิ่มเติม มูลค่า 1,065 ล้านบาท และยอดขายน้ำรวมที่ 178 ล้านลูกบาศก์ลิตร และเซ็นสัญญาขายไฟฟ้ารวม 1,000 เมกะวัตต์ (MW) ในกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค  

เป้าหมายที่ผู้บริหาร WHA ตั้งไว้ ได้รับการตีความจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แทบทุกสำนักว่า จะเห็น WHA โชว์กำไรปกติงวดไตรมาสสุดท้ายทำระดับสูงสุดของปีตามที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ โดยเติบโตเด่น QoQ ตามการโอนที่ดินที่เร่งตัวขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHAIR ช่วงปลายปี แต่ลดลง YoY จาก Backlog สิ้นไตรมาส 3 ที่ลดลง 16% เหลือ 1,259 ไร่ และมูลค่าการขายสินทรัพย์ที่ลดลงจากระดับ 3,000 ล้านบาท ในปีก่อน เหลือ 1,065 ล้านบาท

ประการสำคัญ การกลับมาบริหารประเทศของ Donald Trump ซึ่งเคยประกาศว่าจะเก็บภาษี 60% สำหรับสินค้าที่ผลิตในจีน ขณะที่เก็บภาษี 10% สินค้านำเข้าสำหรับประเทศอื่นๆ ในช่วงหาเสียง ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นให้บริษัทจีนต้องย้ายฐานการผลิตออกมา เพื่อเลี่ยงภาษีในอัตราที่สูงลิ่ว โดยมีไทยและเวียดนามเป็นเป้าหมายของบริษัทสัญชาติจีน อีกทั้งการเข้ามาลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์จากทั่วโลก จะผลักดันให้แนวโน้มการเติบโตของ WHA ในระยะกลางถึงยาวยังเปิดกว้าง จากการที่บริษัทฯ มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งในไทยและเวียดนามรวมกันกว่า 78,000 ไร่ โดยในไทย มีนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 12 แห่ง และบริษัทฯ มีแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 6 แห่ง รวมกว่า 10,000 ไร่ ส่งผลให้ในอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะมีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมให้บริการรวมกว่า 52,390 ไร่ ที่เหลือ 25,610 ไร่ กระจายตัวในเวียดนาม พร้อมกับแนะนำลงทุนระยะยาว

 


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้