5365 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากผู้บริหาร บมจ. เจนก้องไกล (JPARK) พานักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เยี่ยมชมโครงการอาคารจอดรถ 5 ชั้น ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ซึ่งมีจำนวนช่องจอด 532 ช่องจอด และพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ 1 พันตารางเมตร เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด หยวนต้า (YUANTA) และฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ได้ออกบทวิเคราะห์ คาดหมายแนวโน้มกำไรของบริษัทฯ ในปีนี้ว่า จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการเติบโตของผลดำเนินงาน โดยคาดหมายแนวโน้มกำไรปีนี้ใกล้เคียงกันที่ 101-102 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนกว่า 60% ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 676 ล้านบาท และ 716 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 18% และ 25% ตามลำดับ หนุนจากจํานวนช่องจอดที่เพิ่มขึ้นเป็น 4 หมื่นช่องจอด ทั้งจากธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (PS) ที่เพิ่มขึ้นจากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และโครงการที่จอดรถตลาดบางกอกน้อย ที่จะเปิดให้บริการในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ รวมถีงรายได้เพิ่มจากการให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์รวมเป็น 2 พันตารางเมตร และจํานวนชั่วโมงในการจอดต่อช่องจอดเพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (PMS) จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ One Bangkok และสนามบินขอนแก่น เพิ่มเติมเข้ามาในครึ่งปีหลัง อีกทั้งยังจะรับรู้ค่าเสื่อมราคาลดลง ในโครงการที่หมดสัญญาลง และได้ต่อสัญญาใหม่ ผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวจาก 22.6% ในปีก่อนขึ้นมา โดย YUANYA คาดที่ 27.1% ขณะที่ FSS ประเมินที่ 23.9%
สำหรับปีหน้า น่าจะเห็นกำไรเติบโตโดดเด่นกว่าปีนี้ เพราะบริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากการเปิดโครงการใหม่ๆ ปีนี้ เต็มปีเป็นครั้งแรก อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีศักยภาพที่จะขยายที่จอดรถได้อีกมาก จากความต้องการพื้นที่จอดรถที่ยังคงมีไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น ซึ่งบริษัทฯ มีแผนเพิ่มจำนวนช่องจอดอีก 1 หมื่นช่องจอด เป็น 5 หมื่นช่องจอด รวมถึงการได้รับงานจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งถูกเลื่อนจากปีนี้ออกมาเพราะติดปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า ก่อนจะเติบโตแข็งแกร่งมากขึ้นในปี 2569 หนุนจากการรับรู้รายได้จากโครงการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ศิริราชพยาบาล ซึ่งขนาดของโครงการใหญ่กว่าโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเป็นเท่าตัว เต็มปีเป็นครั้งแรก หลังจากเริ่มเปิดให้บริการได้ในครึ่งหลังปีหน้า
โดย YUANTA ประเมินกำไรจะเติบโต 52% เป็น 153 ล้านบาท ก่อนโต 48% ขึ้นมาที่ 227 ล้านบาท ในปี 2569 ขณะที่ FSS คาดการณ์กำไร 2 ปีข้างหน้าเติบโตเพียงปีละ 30% ทำให้ประเมินกำไรที่ 133 ล้านบาท และ 173 ล้านบาท ตามลำดับ ยังไม่คิดรวมผลสำเร็จที่จะเกิดจากการเปิดตัวโครงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถอัตโนมัติ (Prompt park) ช่วงต้นปีหน้า
การคาดหมายแนวโน้มกำไรที่แตกต่างก้น ทำให้ YUANTA ให้มูลค่าพื้นฐานของ JPARK ไว้สูงถึง 10.70 บาท ส่วน FSS ขอรอดูข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งจากผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เบื้องต้น จึงยังคงราคาเหมาะสมปีนี้ ที่ 7.20 บาท
ส่วนภาพระยะสั้น มีการคาดหมายจากทั้ง 2 ค่ายว่า จะเห็นกำไรไตรมาสสุดท้ายของปีทำสถิติสูงสุด แต่กับแนวโน้มไตรมาส 3 มีแค่ FSS ที่เชื่อว่า JPARK จะโชว์กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส (QoQ) แตกต่างจาก YUANTA ที่ประเมินว่า กำไรไตรมาส 3 น่าจะทรงตัว แต่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY)