ยก WHA GULF DELTA INSET ITEL ADVANC SYMC ได้ประโยชน์จากกยักษ์ใหญ่โลกเข้ามาตั้ง Data Center ในไทย

5273 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยก WHA GULF DELTA INSET ITEL ADVANC SYMC ได้ประโยชน์จากกยักษ์ใหญ่โลกเข้ามาตั้ง Data Center ในไทย


โอกาสที่นาง Ruth Porat ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัท Alphabet และ Google เดินทางมาไทย พร้อมกับประกาศแผนลงทุนสร้างดาต้า เซ็นเตอร์ (Data Center) ระดับไฮเปอร์สเกล (Hyperscale) เพื่อขยายการให้บริการด้าน AI กับ Cloud ครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน มูลค่าการลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2572 ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างงานกว่า 14,000 ตำแหน่ง และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 140,000 ล้านบาท โดย Google เตรียมสร้าง Data Center แห่งแรกในนิคมอุตสาหกรรมของ บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) จังหวัดชลบุรี พร้อมกับสร้าง Cloud Region ในกรุงเทพฯ ด้วย

เพราะการลงทุน Data Center จะเป็นการลงทุนต่อเนื่องยาวนานหลายเฟส จึงทำให้มีธุรกิจที่ได้ประโยชน์หลากหลายกลุ่ม โดยนอกเหนือจาก WHA ที่ได้ประโยชน์จากการขายที่ดินแล้ว ยังจะได้ประโยชน์ต่อเนื่องจากการใช้พื้นที่ และสาธารณูปโภคมากที่สุดในระยะยาวแล้ว ยังมีธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะได้อานิสงค์ตามไปด้วย เนื่องจากธุรกิจ Data Center เป็นระบบจัดเก็บข้อมูล จำเป็นต้องมีระบบไฟฟ้าสนับสนุนการทำงานตลอดเวลา อีกทั้งการขยายธุรกิจอาจส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จึงมีความจำเป็นต้องใช้พลังงานสะอาดเป็นจำนวนมาก รวมถึงธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะได้ประโยชน์จากการขายอุปกรณ์กลุ่ม Power supply และ Equipment part ต่างๆ ตามมาด้วยธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยโครงข่ายพื้นฐานเพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าเป้าหมาย และธุรกิจเกี่ยวกับ Data Center และ Cloud Service อย่าง AIT, ICN, ILINK, INET, INSET, ITEL, MFEC, PROEN, SIS, SKY และ SYMC รวมถึงผู้ให้บริการ Digital Tech อย่าง BE8, BBIK และ IIG ที่จะได้ประโยชน์จากความต้องการบุคลากรที่เพิ่มขึ้น ช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้  

จากการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์จาก 7 ค่าย ได้แก่ กรุงศรี พัฒนสิน (KCS) โกลเบล็ก (GBS) ฟิลลิป ประเทศไทย (PST) ดาโอ ประเทศไทย (DAOL) ยูโอบี เคย์เฮียน ประเทศไทย (UOBKH) หยวนต้า (YUANTA) และเอเซีย พลัส (ASPS) เสียงส่วนใหญ่จะยกให้ GULF เป็นตัวเลือกแรกสำหรับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการประกาศลงนามสัญญาความร่วมมือกับบริษัท กูเกิ้ล เอเชีย แปซิฟิก เพื่อทำธุรกิจการให้บริการระบบ Google Distributed Cloud Air-Gapped (GDC AIR-GAPPED) ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไร้ซึ่งการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตสาธารณะโดยสิ้นเชิง ทำให้มีจุดเด่นด้านเสถียรภาพ และความปลอดภัยสูง เหมาะแก่การใช้สำหรับองค์กรในไทย ขณะที่ DELTA จะเด่นสุดในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เพราะจะได้ประโยชน์จากการขายอุปกรณ์กลุ่ม Power supply ที่จำเป็นในระบบไฟฟ้าและระบบระบายความร้อน รองลงไปเป็น CCET





ส่วนธุรกิจโทรคมนาคม เชื่อว่า หุ้นใหญ่อย่าง ADVANC และ TRUE จะได้ประโยชน์ทั้งคู่ แต่ยกให้ ADVANC มีแต้มต่อเหนือกว่าเล็กน้อย ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับ Data Center และ Cloud Service ยกให้ INSET เป็นหุ้นเด่น จากโอกาสที่จะได้รับงานรับเหมาก่อสร้าง Data Center ตามมาด้วย ITEL ผู้ให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกที่มีความเสถียรสูงสุด และยังร่วมเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ผ่านโครงการ AseanConnect .One เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการสื่อสารความเร็วสูงแบบครบวงจรที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับการส่งมอบคอนเทนต์ผ่านอินเตอร์เน็ต (OTTs) อย่างราบรื่น รวมถึง SYMC ซึ่งสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ Google ทำให้คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อกลับไปยังฐานข้อมูลในต่างประเทศโดยตรง เมื่อ Data Center เปิดใช้งาน เช่นเดียวกับ SIS กับ ILINK  ที่น่าจะได้ประโยชน์จากการขายอุปกรณ์ หรือโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับ Cloud Service และกระแส Digital Transformation

ประการสำคัญ นอกจาก Google ที่ประกาศแผนลงทุนและยื่นคำขอสิทธิประโยชน์ทางภาษี กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แล้ว ยังมีบริษัทชั้นนำระดับโลกได้เข้ามาลงทุนจัดตั้ง Data Center ในไทยแล้วหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Amazon Web Service (AWS) ที่ประกาศลงทุนในไทยกว่า 2 แสนล้านบาท ภายในปี 2580 โดยในเฟสแรกได้ลงทุนสร้าง Data Center แล้ว 3 แห่ง เงินลงทุนกว่า 25,000 ล้านบาท หรือ NextDC จากออสเตรเลีย ลงทุน 13,700 ล้านบาท CtrlS จากอินเดีย ลงทุน 5,000 ล้านบาท STT GDC จากสิงคโปร์ ลงทุน 4,500 ล้านบาท Evolution Data Center จากสิงคโปร์ ลงทุน 4,000 ล้านบาท Supernap (Switch) จากสหรัฐฯ ลงทุน 3,000 ล้านบาท Telehouse จากญี่ปุ่น ลงทุน 2,700 ล้านบาท และ One Asia จากฮ่องกง ลงทุน 2,000 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจการให้บริการคลาวด์ (Cloud Service) มีบริษัทชั้นนำที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ เช่น Alibaba Cloud ลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท และ Huawei Technologies ลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนด้านนี้จากกลุ่ม TRUE และ ADVANC อีกด้วย ทำให้กระแสการเปลี่ยนผ่านของ Digital Transformation ช่วยผลักดันการเติบโตให้กับภาคธุรกิจ และระบบเศรษฐกิจไทย ช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลของไทยในอนาคต ให้พร้อมก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลในภูมิภาคตามมาในที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้