SNPS รอจังหวะขายหุ้น IPO 105 ล้านหุ้น ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจสมุนไพรไทยครบวงจร

4682 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SNPS รอจังหวะขายหุ้น IPO 105 ล้านหุ้น ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจสมุนไพรไทยครบวงจร


นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บมจ. สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ (SNPS) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 105 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ที่ราคาพาร์ หุ้นละ 1 บาท เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ (PERSON) ภายในไตรมาสสุดท้ายปีนี้

ทั้งนี้ SNPS ทำธุรกิจ 2 ประเภท คือผลิตและจำหน่ายสารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 398 รายการ แบ่งเป็นสารสกัดสำหรับเครื่องสำอางและเวชสำอาง 162 รายการ สารสกัดสำหรับอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 108 รายการ สารสกัดสำหรับยา 104 รายการ และวัตถุดิบสำหรับเครื่องสำอางและเวชสำอาง 24 รายการ และรับจ้างพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย ทั้งภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (Original Design Manufacturer - ODM) และแบรนด์ตัวเอง โดยรายได้หลักเกือบ 70% จะมาจากธุรกิจรับจ้างพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย ซึ่งเป็นธุรกิจกลางน้ำและปลายน้ำ อีก 30% มาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายสารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน ที่เป็นธุรกิจต้นน้ำ และ 3% ที่เหลือมาจากรายได้ในการให้บริการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ได้แก่ ค่าขึ้นทะเบียนสินค้า ค่าต่อทะเบียนสินค้า ค่าสินค้าตัวอย่าง ค่าตรวจวิเคราะห์ และค่าพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนนำเงินส่วนใหญ่มาใช้ลงทุนเครื่องจักร เครื่องตรวจวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับนวัตกรรมในการสกัดให้ได้สารสกัดสมุนไพรที่มีความบริสุทธิ์มากขึ้น รวมถึงเพื่อวิจัยพัฒนา และผลิตวัตถุดิบสมุนไพรสำหรับผลิตภัณฑ์ยาพัฒนาจากสมุนไพร อาหารทางการแพทย์ หรืออาหารที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ 5 รายการ เช่น ลดน้ำตาลในเลือด ปรับสมดุลการย่อยอาหาร สร้างภูมิคุ้มกัน ส่วนที่เหลือนำไปชำระหนี้สถาบันการเงินของกลุ่มบริษัทฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีความเข้มแข็งทางการเงิน และมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ด้าน รศ. ดร. พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร SNPS ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทฯ เสริมว่า การที่ตนเองอยู่ในแวดวงสมุนไพรมาอย่างยาวนาน และมีความตั้งใจที่จะเพิ่มมูลค่าของสมุนไพรไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ทำให้ตนเองตัดสินใจนำเอาวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ร่วมกับการพัฒนาระบบการเพาะปลูก ผ่านโครงการแทนคุณไทยฟาร์ม ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนเครือข่ายเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ต่างๆ กว่า 15 จังหวัด เพื่อส่งมอบสารสกัดสมุนไพร รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานระดับสากลในทุกกระบวนการผลิต ตอบโจทย์คู่ค้าและผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ไร้สารเคมี เป็นมิตรต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ตามกระแสใส่ใจสุขภาพที่ขยายวงทั่วโลกหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด ทำให้บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขยายธุรกิจ จึงตัดสินใจเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับการเติบโตของตลาดสมุนไพรในประเทศ ที่มีการประเมินกันว่าจะเติบโตเพิ่มจากเกือบ 5.7 หมื่นล้านบาท ในปี 2566 เป็น 1.04 แสนล้านบาท ในปี 2570 สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต อีกทั้งตอบจุดยืนในการยกระดับสมุนไพรไทยให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในเวทีโลกในวงกว้างตามไปด้วย

 

 

 


ส่วน ดร. ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SNPS ชี้แจงว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้สอดรับกับโอกาสที่เปิดกว้างทั้งจากตลาดในประเทศ และตลาดโลก โดยมีการคาดหมายจากสถาบัน Futures Market Insight ว่า มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั่วโลกจะเติบโตจาก 2.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566 มาเป็น 4.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2576 ขณะที่ตลาดในประเทศ ได้แรงหนุนจากการเพิ่มประเภทยาสมุนไพร และการเพิ่มงบประมาณปี 2568 สนับสนุนให้มีการใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบัน ในสถานบริการสาธารณสุข ตามแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (ปี 2567-70) เพิ่มจาก 1.0 พันล้านบาท เป็น 1.5 พันล้านบาท และการเติบโตของตลาดเครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาสมุนไพรในประเทศ ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 6-8% ช่วงก่อนเกิดโควิด มาเป็น 12-14% หลังโควิด ช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทฯ สามารถก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจสมุนไพรของไทย ยกระดับธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว

สำหรับผลดำเนินงานล่าสุด งวดครึ่งแรกปีนี้ SNPS มีกำไรสุทธิ 29.35 ล้านบาท เติบโต 10.42% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามรายได้รวมที่เติบโต 7.47% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 216.82 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายสารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน 61.90 ล้านบาท และธุรกิจรับจ้างพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย 145.82 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ผลดำเนินงานย้อนหล้ง 3 ปี กลับมีความผันผวน เพราะผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ บางประเภท เช่น สารสกัดฟ้าทะลายโจร สารสกัดกระชายขาว มีสรรพคุณในการรักษาและบรรเทาอาการจากโควิด จึงทำให้รายได้ และกำไรในช่วงเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ปี 2564 เติบโตอย่างโดดเด่น แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลายตัว ใน 2 ปีต่อมา ทำให้รายได้และกำไรปรับตัวลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้รายได้ชะลอตัวลงจาก 715.97 ล้านบาท ในปี 2564 ลงมาเหลือ 502.66 ล้านบาท ในปี 2565 และลดลงเหลือ 368.09 ล้านบาท ในปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทฯ อยู่ในระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาณหนึ่งปี ทำให้รายได้มาจากผลิตภัณฑ์เดิมๆ ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีการตัดขายชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด (ATK) ในราคาต่ำกว่าทุนเพิ่มเข้ามา จึงมีผลให้กำไรสุทธิปรับลดลงมาเป็นลำดับ โดยกำไรสุทธิชะลอตัวจาก 166.99 ล้านบาท ในปี 2564 ลงมาเหลือ 68 ล้านบาท ในปี 2565 และ 28.36 ล้านบาท ในปี 2566





 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้