1649 จำนวนผู้เข้าชม |
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง (BLS) ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ (OKJ) เปิดเผยว่า บริษัทฯ สามารถปิดยอดการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 159 ล้านหุ้น ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ทั้งนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่ให้ความสนใจสูงเกิน 11 เท่า สะท้อนให้เห็นความมั่นใจในการตั้งราคา IPO ที่สมเหตุสมผล คิดเป็น P/E ประมาณ 24.13 เท่า สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งในฐานะ King of Organic Salad ในประเทศ และศักยภาพการเติบโตจากการเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สอดรับไปกับกระแสสังคมผู้สูงอายุ และการเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก ผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีโอกาสการเติบโตสูง
ที่สำคัญ ความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของ OKJ ทำให้บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ (Modulus) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ขอรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในระดับ 20% ต่อไป โดยพร้อมจะซื้อหุ้นจากผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ทั้ง 3 ราย ผ่านกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) เพิ่มอีก 31.8 ล้านหุ้น หรือ 5.22% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ที่ราคา IPO หุ้นละ 6.70 บาท ในวันแรกที่หุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 4 ตุลาคมนี้ ช่วยตอกย้ำให้เห็นด้วยว่า OKJ น่าจะเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องหลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว
ด้านนายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OKJ ชี้แจงว่า หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ตามแผน 5 ปี (ปี 2567-71) ด้วยการนำเงินระดมทุนมาใช้ขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋ พร้อมกับพัฒนาเมนูและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จำหน่ายในร้านอาหารปัจจุบัน ร้าน Cafe Amazon เบเกอรี่เพื่อสุขภาพ และสินค้าสำหรับซื้อกลับบ้าน (Take away) รวมถึงใช้จุดแข็งในการทำเกษตรอินทรีย์มาพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ๆ โดยคงคอนเซ็ปต์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ผ่านการขยายสาขาร้าน Oh! Juice และร้าน Ohkajhu Wrap & Roll โดยมีแผนจะขยายสาขา 2 แบรนด์ใหม่ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ โดยตั้งเป้าขยายสาขาร้าน Ohkajhu Wrap & Roll ให้ครบ 20 สาขา และขยายสาขาร้าน Oh! Juice ให้ครบ 70 สาขา ภายในปี 2571 เพื่อตอบโจทย์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลง และความนิยมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญการดูแลสุขภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายแบรนด์ใหม่ๆ รวมถึงลงทุนสร้างครัวกลางแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและประสิทธิภาพในการผลิต พัฒนาอุปกรณ์ และระบบสาธารณูปโภค เพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก และนำเงินบางส่วนไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน เพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน