ONEO แจงพื้นฐานธุรกิจ เตรียมความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

2899 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ONEO แจงพื้นฐานธุรกิจ เตรียมความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ


นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บมจ. วัน ออริจิ้น (ONEO) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมและการบริการ และอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าในประเทศไทย โดยเป็นเรือธง (Flagship) ในการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) และมีแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปีนี้ ออกมาให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับพื้นฐานการทำธุรกิจว่า ดำเนินธุรกิจครอบคลุม 4 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ กลุ่มธุรกิจค้าปลีกและอาคารสำนักงาน กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการด้านการบริหารโครงการในกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ หรือการบริหารจัดการโปรแกรมลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (Investment Property) หรือโปรแกรมแฮมป์ตัน  

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จ และโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา ในกลุ่มโรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ จำนวน 7 โครงการ ด้วยจำนวนห้องพัก 1,579 ห้อง อาทิ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง ไอบิส ภูเก็ต กะตะ ไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง ไอบิส หัวหิน สเตย์บริดจ์ สวีท ทองหล่อ  และมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีก 12 โครงการ คิดเป็นจำนวนห้องพักรวม 4,343 ห้อง  

ส่วนโครงการประเภทพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน เปิดดำเนินการแล้วโครงการเดียว คือ โครงการพอร์โทเบลโล มอลล์ ศรีราชา ด้วยพื้นที่เช่าสุทธิรวม 2,053 ตารางเมตร และมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 4 โครงการ คิดเป็นพื้นที่เช่าสุทธิรวม 16,720 ตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีอาคารสำนักงานที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีก 2 แห่ง ขนาดพื้นที่เช่าสุทธิรวม 59,869 ตารางเมตร 

 

 

สำหรับธูุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เปิดดำเนินการแล้ว 5 ร้าน คือ Gin Kitchen, Origami, Naori และอยู่ระหว่างพัฒนาอีก 4 ร้าน ขณะที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง มีการให้บริการบริหารโครงการในกลุ่ม ONEO ทั้งสิ้น 12 โครงการ และการบริหารจัดการโปรแกรมแฮมป์ตัน 7 โครงการ ได้แก่ โครงการแฮมป์ตัน ดีลักซ์ โอเชียน ศรีราชา, แฮมป์ตัน สวีทส์ เทพารักษ์, แฮมป์ตัน เน็กซ์ ทู เอ็มโพเรียม, แฮมป์ตัน สวีทส์ พญาไท, แฮมป์ตัน  ทองหล่อ, นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง และแฮมป์ตัน สวีทส์ ศรีราชา และมีแผนจะต่อยอดโปรแกรมอีก 6 โครงการ 

ซึ่งเมื่อจัดแบ่งช่องทางหารายได้จากทุกธุรกิจ ล่าสุด รายได้จากธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ รายได้จากการบริหารโครงการในกลุ่ม ONEO และรายได้จากโปรแกรมแฮมป์ตัน จะมีสัดส่วนต่อรายได้รวมกันสูงเกิน 85% และมี ส่วนผลักดันให้ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปีล่าสุด (ปี 2563-65) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้เติบโตจาก 82.7 ล้านบาท ในปี 2563 ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็น 688.3 ล้านบาท และ 966.3 ล้านบาท ในปี 2564 และ 2565 ตามลำดับ ขณะที่ผลกำไร สามารถพลิกจากขาดทุนสุทธิ 62.2 ล้านบาท ในปี 2563 มาเป็นกำไรสุทธิ 304.0 ล้านบาท และ 312.4 ล้านบาท ในปี 2564 และ 2565 ตามลำดับ ตามจำนวนโครงการที่เปิดตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทุกโครงการมีจุดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ 

ดังนั้น การมีโครงการอยู่ระหว่างพัฒนาเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า บริษัทฯ สามารถขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด ผ่านการพัฒนาโครงการใหม่ ทั้งในรูปแบบการลงทุนเอง และการร่วมพัฒนากับพันธมิตรทางธุรกิจ อย่างกลุ่มโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ กลุ่ม Ci:Z Investment หรือกลุ่มโตคิว แลนด์ เอเชีย อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากสายสัมพันธ์ที่มีกับบริษัทในกลุ่ม ORI ช่วยส่งเสริมศักยภาพโครงการซึ่งกัน เพื่อก้าวเติบโตไปพร้อมกัน 

ที่สำคัญ การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น ทั้งการมีเงินทุนรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ การมีสัดส่วนหนี้ต่อทุนในระดับที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น และขับเคลื่อนให้ ONEO ก้าวเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมและการบริการในประเทศ ตามเป้าหมายที่วางไว้ 

 

 

ในเบื้องต้น ONEO มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 702.8 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

     


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้