ออมสินพร้อมเดินหน้าธนาคารเพื่อสังคมเต็มตัว หลังผลงานที่ผ่านมาสร้างมูลค่าได้กว่า 5.5 หมื่นล้านบาท

3308 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ออมสินพร้อมเดินหน้าธนาคารเพื่อสังคมเต็มตัว หลังผลงานที่ผ่านมาสร้างมูลค่าได้กว่า 5.5 หมื่นล้านบาท


นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินเป็นธนาคารเพื่อสังคมที่ดำเนินการโดยใช้แนวคิด ESG เป็นกรอบการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม (Social Impact) ผ่านกระบวนการดำเนินงาน ESG in action หรือการดำเนินธุรกิจด้วยกรอบแนวคิด ESG บนเส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ไปสู่เป้าหมายช่วยแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกมากมายต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 55,400 ล้านบาท 

โดยในด้านสิ่งแวดล้อม ธนาคารได้สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ผ่านการออกผลิตภัณฑ์การเงินช่วยขับเคลื่อนการดูแลสิ่งแวดล้อม อาทิ สินเชื่อ GSB for BCG Economy สินเชื่อ Green Biz, Green Home Loan และสินเชื่อบุคคล GSB Go Green รวมถึงการจัดจำหน่าย ESG Bond ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของตราสารหนี้ภาครัฐ และติด 1 ใน 10 ของตราสารหนี้ภาคเอกชน วงเงินรวมกว่า 20,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่ธนาคารดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นโครงการติดตั้ง Solar Rooftop ที่สาขาและอาคารสำนักงานใหญ่ โครงการปลูกป่าชดเชย เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โครงการธนาคารปูม้าส่งเสริมประมงยั่งยืน หรือโครงการ Community Waste Bank ร่วมกับ UNDP

และล่าสุด ธนาคารได้กำหนดให้มีการใช้ ESG Score เป็นเกณฑ์พิจารณาปล่อยสินเชื่อแก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีวงเงินกู้ 500 ล้านบาทขึ้นไป โดยลูกค้ารายที่มีผลคะแนน ESG Score ในระดับดีมาก ธนาคารจะให้การสนับสนุนโดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หรือเพิ่มวงเงินให้กู้ ส่วนรายที่คะแนน ESG Score ต่ำกว่า 2 ธนาคารจะสงวนสิทธิ์ไม่พิจารณาให้กู้ไว้ก่อน แต่จะเข้าช่วยเหลือเพื่อยกระดับการดำเนินงานของลูกค้าด้าน ESG ให้ดีขึ้น ถือเป็นครั้งแรกในระบบธนาคารที่มีการนำเอา ESG Score มาเป็นเกณฑ์ประกอบการพิจารณาปล่อยสินเชื่ออย่างจริงจัง

 


 

นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมยกระดับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญหลังจากนี้ โดยอยู่ระหว่างการเตรียมประกาศเป้าหมาย GSB Net Zero Target อย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า 50% ภายในปี 2030 และเป็นศูนย์ภายในปี 2050 

ด้านสังคม เป็นภารกิจหลักที่ธนาคารให้ความสำคัญและดำเนินการผ่านโครงการต่าง ๆ เพื่อมุ่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกค้ากลุ่มฐานราก ซึ่งที่ผ่านมา มีการดำเนินการใน 3 มิติ คือ การปรับโครงสร้างดอกเบี้ยตลาดให้เป็นธรรม ผ่านการเข้าทำธุรกิจสร้างการแข่งขันในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียน ซึ่งสามารถลดโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยของธุรกิจนี้ลงมาอยู่ที่ 16-18% ควบคู่ไปกับการปล่อยสินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน โดยเปิดช่องทางให้ลูกค้าสามารถนำเอาที่ดินมาใช้เป็นหลักประกันการขอสินเชื่อได้ การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ ด้วยการปล่อยสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนและอัตราดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือประชาชนรายย่อย และกลุ่มฐานรากได้แล้วกว่า 3.7 ล้านคน ในจำนวนนี้ 3.2 ล้านคน เป็นผู้ไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ เพราะมีเครดิตต่ำหรือไม่มีเครดิตทางการเงินมาก่อน

ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่ธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดกว่า 48,000 ราย ก็ได้รับการเติมทุนเสริมสภาพคล่องเป็นเม็ดเงินรวมกว่า 2.5 แสนล้านบาท ให้สามารถนำไปประคองธุรกิจและฟื้นฟูกิจการให้เดินหน้าต่อได้ รวมไปถึงการสร้างงานสร้างอาชีพ พัฒนาทักษะอาชีพแก่ประชาชนได้มากกว่า 300,000 ราย ให้เงินทุนประกอบอาชีพมากกว่า 140,000 ราย และสร้างช่องทางการขายแล้ว 25,000 ร้านค้า ผ่านกิจกรรมของโครงการยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น โครงการออมสินxอาชีวะสร้างอาชีพสู่ชุมชน  

นอกจากนี้ ยังมีโครงการเพื่อสังคมอีกหลายด้านที่ธนาคารตั้งเป้าพัฒนาคนและชุมชนอย่างยั่งยืน อย่าง การริเริ่มโครงการต้นแบบเพื่อการพัฒนาองค์รวมในพื้นที่ 5 หมู่บ้าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน โครงการของขวัญปีใหม่ส่งเสริมการจ้างงานชาวบ้านและผู้ด้อยโอกาส โครงการสร้างแหล่งอาหารยั่งยืนเพื่อเยาวชนยากไร้ ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือและให้โอกาสประชาชนฐานรากกลุ่มต่างๆ 

 

 


 

ขณะที่ด้านธรรมาภิบาล ธนาคารดำเนินกิจการอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ มีระบบการบริหารจัดการงบประมาณอย่างประหยัดและคุ้มค่า ปรับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใสในการทำธุรกิจ จนมทำให้สามารถปรับลดงบประมาณองค์กรลงปีละเกือบ 25% เฉพาะปีนี้ ได้ลดการตั้งงบประมาณลงถึง 9,800 ล้านบาท อีกทั้งยังสามารถเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งของธนาคารโดยได้เพิ่มปริมาณเงินสำรองทั่วไปได้มากกว่า 46,000 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 3 ปี รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร รณรงค์ส่งเสริมต่อต้านการทุจริตและความโปร่งใสในการดำเนินงาน โดยธนาคารได้รับผลประเมิน ITA ปี 2565 ระดับสูงสุด 4 ปีติดต่อกัน 

สำหรับแผนดำเนินงานในครึ่งปีหลัง ธนาคารเตรียมออกมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ตามนโยบายกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวธุรกิจนอนแบงก์ (Non Bank) ชื่อ "บริษัทเงินดีดี" ภายในไตรมาสสุดท้ายของปี เพื่อเข้าแข่งขันลดดอกเบี้ยในตลาดสินเชื่อไม่มีหลักประกัน เพื่อให้บริการสินเชื่อรายย่อยได้ครอบคลุมความเสี่ยงที่สูงขึ้น เป็นแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนถูกลงและเป็นธรรม โดยใช้ Alternative Data อนุมัติสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันที่จะทำให้กระบวนการปล่อยสินเชื่อทำได้ง่ายขึ้น พร้อมกับเร่งขยายเป้าการปล่อยสินเชื่อของ "บริษัท มีที่ มีเงิน" ให้สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ภายในปีนี้ 7,000 ล้านบาท ตลอดจนมีแผนดำเนินงานเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลอีกหลายโครงการ ที่พร้อมเคลื่อนที่เร็ว เพื่อยกระดับการดำเนินงาน ESG in Action สานต่อธนาคารเพื่อสังคมสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในเบื้องต้น คาดว่า บริษัทเงินดีดี จะกำหนดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล ในอัตราปีละ 20-23% เทียบกับปัจจุบันที่อยู่ระดับ 25% ขณะที่สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ จะคิดดอกเบี้ยในอัตราปีละ 28-30% ลดลงจากปัจจุบันที่ตลาดคิดดอกเบี้ยปีละ  33%

 
ขณะที่ผลดำเนินงานงวดครึ่งแรกปีนี้ ธนาคารออมสินมีกำไรสุทธิ 17,344 ล้านบาท มีสินเชื่อรวม 2.35 ล้านล้านบาท เงินฝากรวม 2.68 ล้านล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3.16 ล้านล้านบาท พร้อมกับสามารถรักษาระดับ NPLs ได้ที่ 2.63% ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratios) 172.10% และมีเงินสำรองรวม (Total Provision) แตะระดับ 106,595 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของธนาคาร

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้