ยัสปาล ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 156 ล้านหุ้น เพื่อขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับสากล

2883 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยัสปาล ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 156 ล้านหุ้น เพื่อขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับสากล


นายทินพันธุ์ หวั่งหลี รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. หลักทรัพย์ กสิกรไทย (KS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. ยัสปาล (JPC) เปิดเผยว่า ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 156 ล้านหุ้น คิดสัดส่วนไม่เกิน 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ที่ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท  

ทั้งนี้ JPC ทำธุรกิจผลิต จัดหาและจัดจำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่มีการออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม มีความทันสมัย ภายใต้แบรนด์ที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของ (Inhouse brand) และแบรนด์ที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนจำหน่าย หรือได้รับสัญญาแฟรนไชส์ หรือได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Import brand) ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกกว่า 19 แบรนด์ เช่น Jaspal (ยัสปาล), Misty Mynx (มิสตี้ มิงซ์), CC Double O (ซีซี ดับเบิ้ลโอ), CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์), Lyn (ลิน), Lyn Around (ลิน อะราวนด์), Fred Perry (เฟร็ด เพอร์รี่), Diesel (ดีเซล) Superdry (ซุปเปอร์ดราย) ครอบคลุมสินค้าตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง แว่นตา มากกว่า 113,000 SKUs   


  


นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิต จัดหาและจำหน่ายที่นอน เครื่องนอน ของตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ ทั้งที่เป็น Inhouse brand และ Import brand อีก 6 แบรนด์ ได้แก่ SANTAS, SANTAS Home, Stevens, Sealy, Ethan Allen และ Tempur ครอบคลุมสินค้ากว่า 21,500 SKUs จำหน่ายผ่าน 3 ช่องทาง ทั้งสาขาหน้าร้าน หรือจุดจำหน่ายในศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมกัน 508 แห่ง ตลอดจนการขายงานโครงการ และการส่งออก  

ส่วนนายจรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPC ชี้แจงจุดเด่นของกลุ่มบริษัทฯ ว่า มีประสบการณ์ในธุรกิจแฟชั่น ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ มายาวนานกว่า 70 ปี มีบุคลากรที่มีความเข้าใจและชำนาญในอุตสาหกรรม สามารถมองเห็นเทรนด์การเปลี่ยนของธุรกิจและอุตสาหกรรม อีกทั้งมีความเชี่ยวชาญการในออกแบบ จัดหาสินค้า เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบไลฟ์สไตล์ด้านแฟชั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อก้าวสู่หนึ่งในผู้นำธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับสากล สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นระดับโลก  

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังมีการวางแผนจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนช่องทางจำหน่ายผ่านสาขา หรือจุดจำหน่ายในศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าชั้นนำรวม 462 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์บริษัทฯ และแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ต่างๆ จนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าเฉพาะอย่างของประเทศไทย อ้างอิงจากรายงานของ Euromonitor International

 



สำหรับผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปีล่าสุด (ปี 2563-65) บริษัทฯ มีการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง จากที่ขาดทุน 153.20 ล้านบาท ในปี 2563 พลิกมาเป็นกำไร  221.47 ล้านบาท ในปี 2564 ก่อนพุ่งเป็น 914.50 ล้านบาท ในปี 2565 ถึงแม้รายได้จากการขายจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในบางช่วง แต่เมื่อสถานการณ์คลายตัว ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านอัตราการเติบโตของรายได้ของสาขาเดิม (SSSG) ของธุรกิจสินค้าแฟชั่นในประเทศไทยที่ปรับตัวดีขึ้น และผลักดันให้ผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปีนี้ JPC มีกำไรสุทธิ 242.99 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 188.07% 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้