TSE ตั้งเป้าชนะประมูลโรงไฟฟ้ากำลังการผลิต 200 MW หากได้ตามเป้า เพิ่ม upside หุ้นถึง 50 สตางค์

2908 จำนวนผู้เข้าชม  | 

TSE ตั้งเป้าชนะประมูลโรงไฟฟ้ากำลังการผลิต 200 MW หากได้ตามเป้า เพิ่ม upside หุ้นถึง 50 สตางค์


ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มบริษัทฯ ได้ยื่นคำเสนอซื้อขายไฟฟ้าประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System: BESS) และพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เปิดประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุด กลุ่มบริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้ผ่านการพิจารณาเกณฑ์ความพร้อมด้านเทคนิคขั้นต่ำรอบแรก 30 โครงการ และได้เพิ่มเติมอีก 8 โครงการ จากผลการยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา แบ่งเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดินรวม 37 โครงการ และโครงการ BESS อีก 1 โครงการ ซึ่งจะมีการประกาศผลรอบสุดท้าย วันที่ 5 เมษายนที่จะถึงนี้  

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ ตั้งเป้าส่วนแบ่งโควต้าของกำลังไฟฟ้าเสนอขายรวมไม่ต่ำกว่า 200 เมกะวัตต์ (MW) โดยได้มีการเตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน หรือเงินลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินลงทุนส่วนหนึ่งจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ อีกส่วนหนึ่งมาจากการเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 1 ปี 10 เดือน อัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นปีละ 4.70 – 4.90% จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ให้กับนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 4 - 10 เมษายนนี้ ที่เหลือมาจากการสนับสนุนด้านเงินทุนจากสถาบันการเงินชั้นนำในประเทศ  

พร้อมกันนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังได้วางแผนการเงินเพื่อรองรับแผนเข้าร่วมประมูลตามประกาศใหม่ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่เห็นชอบปรับแผนรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพิ่มอีก 3,668.5 MW จากที่เปิดรับซื้อ 5,203 MW โดยปรับเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มขึ้นอีก 264 MW เป็น 2,632 MW

ข่าวดีดังกล่าว ได้รับการตีตวามจากฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน (KCS) ว่า ทุก 100 MW ที่กลุ่มบริษัทฯ ได้จะเป็น upside ต่อราคาเป้าหมายปีนี้ 0.25 บาท

ในเบื้องต้น KCS ให้ราคาเป้าหมายที่ 3.16 บาท อิงวิธี SOTP เพราะให้น้ำหนักกับการเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้า Onikoube ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ กำลังการผลิต 133 MW จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ในไตรมาส 2 นี้ หนุนให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของ TSE เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 254 MW จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 121 MW ช่วยชดเชยผลกระทบจาก Adder ที่ทยอยหมดลงใน 2 ปีนี้ได้ทั้งหมด พร้อมกับผลักดันให้กำไรปีนี้เติบโตจากปีที่ผ่านมา 20% เป็น 870 ล้านบาท

สำหรับผลดำเนินงานปีที่ผ่านมา TSE มีกำไรสุทธิ 724 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรพิเศษจากการขายโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นในไตรมาสแรก แต่หากตัดรายการนี้ออกไป กำไรปกติจะอยู่ที่ 499 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 11% ตามกำลังการผลิตที่หายไปจากการขายโรงไฟฟ้าดังกล่าว 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้