2736 จำนวนผู้เข้าชม |
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) ประกาศแผนธุรกิจปีนี้ ชู Theme "SENA Multiplied" มุ่งเน้นพัฒนาทั้งธุรกิจหลัก คือธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการเพิ่มธุรกิจใหม่ๆ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก โดยธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เตรียมเปิดโครงการใหม่ 26 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 24,024 กว่าล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 9 โครงการ (มูลค่ารวม 7,471 ล้านบาท) และคอนโดมิเนียม 17 โครงการ (มูลค่ารวม 16,553 ล้านบาท) ในจำนวนนี้ เป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่มฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเหนียวแน่นมาตลอด 8 ปี ถึง 22 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 21,210 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังตั้งเป้าหมายทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ด้วยเป้ายอดขาย 18,242 ล้านบาท และเป้ายอดโอนรวม 16,539 ล้านบาท โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ปีนี้ประมาณ 7,000-8,000 ล้านและมีสินค้าเหลือขายอีก 22,294 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ในอนาคต
ขณะที่บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ราว 9,084 ล้านบาท เพื่อเสริมธุรกิจหลักของ SENA ให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมกับรุกขยายโอกาสสู่ธุรกิจใหม่อีก 10 ธุรกิจ โดย SENA จะรุกเข้าไปใน 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจบริการทางการเงิน ภายใต้แบรนด์ "เงินสดใจดี" เพื่อเพิ่มความสามารถในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้า และธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าแบบครบวงจร "METROBOX" ที่ร่วมทุนกับ บมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) ประเดิมใน 2 ทำเล คือ บางนา บางพลี สมุทรปราการ และพหลโยธิน วังน้อย พระนครศรีอยุธยา
ส่วนอีก 8 ธุรกิจ จะดำเนินการผ่านบริษัทในกลุ่ม คือ บมจ. เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ (SENAJ) ซึ่งจะมีการรีแบรนด์เป็น เซ็น เอกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ (SENX) เพื่อตอกย้ำบทบาทในการเป็นห้องเครื่องขับเคลื่อนการต่อยอดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในมิติของการยกระดับคุณภาพชีวิตลูกบ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม (New Business to Strengthen Core Business) และการจัดตั้งบริษัทใหม่ เสนากรีน เอนเนอร์จี้ (SENA GREEN) ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในมิติของการสร้างสังคมที่ยั่งยืน (New Business New Foundation)
โดยบทบาทของ SENX จะต่อยอดธุรกิจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เน้นตลาดพรีเมียม รวมถึงธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบริหารนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินแบบครบวงจร และแบบเอกซ์คลูซีฟ ที่จะนำเอาแพลตฟอร์ม "SMARTIFY" ที่บริษัทฯ จับมือกับบริษัท เอ็นอีซี คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย มาเติมเต็มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและลูกบ้านในลักษณะ Smart Living Community ธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์เต็มรูปแบบ ธุรกิจสถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะฟื้นตัว ภายใต้แบรนด์ "SJ HEALTHCARE" และธุรกิจบ้านมือสอง แบรนด์ "SENA Sure" ที่ทำร่วมกับ บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM)
สำหรับ SENA GREEN จะมุ่งเน้นธุรกิจด้านพลังงานสะอาดและพลังงานในอนาคต ครอบคลุมใน 3 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ที่ได้จับมือกับบริษัท ชิเซ็น อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Shizen) เพื่อลงทุนและศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายตลาดด้านพลังงานหมุนเวียนร่วมกันในประเทศ นอกจากนี้ ยังมองหาพันธมิตรในการติดตั้ง "โซลาร์แนวตั้ง" สำหรับอาคารสูงในประเทศไทย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้มากที่สุด รวมไปถึงการขยายเข้าสู่ธุรกิจให้บริการชาร์จรถไฟฟ้า (EV CHARGING Station) ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์ เพื่อให้สอดคล้องไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (SMARTCITY) ที่ปัจจุบัน มีการติดตั้งในหมู่บ้านของ SENA ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charging Station) เพิ่มขึ้น รวมไปถึงธุรกิจปลูกป่ารักษาโลก ตามเป้าเจตนารมณ์ 100,000 ไร่ ซึ่งจะสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตในระยะยาว ตามมา
พร้อมกันนี้ SENA มีแผนจะดัน SENA GREEN เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ โดยมีการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ รวมถึงได้มีการจัดตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งหากนับรวมธุรกิจใหม่ๆ และการขยายธูรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงรุก จากทั้ง 3 บริษัทฯ ในกลุ่ม SENA ทำให้มูลค่าโครงการท้ั้งหมดของ SENA ที่ประกาศในปีนี้ มีมูลค่ารวมกว่า 55,000 ล้านบาท
สำหรับเบื้องลึกของแผนธุรกิจข้างต้น ได้รับการอธิบายจาก ผศ.ดร.เกษรา ว่า เกิดจากบริษัทฯ ต้องการขับเคลื่อนธุรกิจบนแนวคิดสร้างความยั่งยืน ให้กับสังคม เพื่อให้ SENA เป็น The Essential Lifelong Trusted Partner เพื่อสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงชีวิต ส่งต่อให้กับคนทุกรุ่น