TIDLOR ใจดี ปันผลทั้งในรูปหุ้น และเงินสด หลังกำไรปีเสือตามคาด

2767 จำนวนผู้เข้าชม  | 

TIDLOR ใจดี ปันผลทั้งในรูปหุ้น และเงินสด หลังกำไรปีเสือตามคาด


นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เงินติดล้อ (TIDLOR) เปิดเผยผลดำเนินงานรอบบัญชีปีที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 15,274 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,640 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 27% และ 15% ตามลำดับ โดยพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถขยายตัวเพิ่มเป็น 81,265 ล้านบาท เติบโตถึง 32% จากความสำเร็จของบัตรติดล้อทั้งสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ การออกแคมเปญกระตุ้นตลาด การขยายสาขาเพิ่ม 342 สาขา เป็น 1,628 สาขา อีกทั้งกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสภาพคล่อง และเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาทำธุรกิจตามปกติ หลังการแพร่ระบาดไวรัสโควิดคลายตัว ส่วนธุรกิจนายหน้าประกันภัย มีรายได้จากค่าเบี้ยประกันวินาศภัยสูงเกือบ 7 พันล้านบาท ปรับตัวกว่า 34% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้  

สำหรับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.52% ในไตรมาส 3 มาเป็น 1.58% และสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 1.2% แต่ยังต่ำกว่าอุตสาหกรรมและคู่แข่ง และเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯ กำหนดไว้ไม่เกิน 2% ผลจากนโยบายพิจารณาสินเชื่ออย่างระมัดระวังและมีประสิทธิภาพ

ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ทำให้บริษัทฯ คาดว่าแนวโน้มธุรกิจปีนี้จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และธุรกิจนายหน้าประกันภัย ประกอบกับบริษัทฯ มีการตั้งสำรองหนี้ในระดับสูง และยังมีความได้เปรียบในการบริหารต้นทุนทางการเงินในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มเครดิต “คงที่”

พร้อมกันนี้ การที่บริษัทฯ หันมาใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ "บัตรติดล้อ"  (TIDLOR Card) ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าสินเชื่อจำนำทะเบียนรถสามารถกดเงินสดตามวงเงินที่ได้รับจากตู้เอทีเอ็มธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศเกือบ 50,000 ตู้ โดยมีการอนุมัติบัตรติดล้อไปแล้วกว่า 490,000 ใบ ในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวผลิตภัณฑ์ "ประกันติดล้อ" รวมถึงการมีช่องทางให้บริการลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ และแพลตฟอร์มดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันเงินติดล้อที่เพิ่งเปิดตัวในปีที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับที่ดี ทำให้ฐานลูกค้ามีการเติบโต

โอกาสนี้ บริษัทฯ ประกาศจ่ายปันผลในรูปหุ้นปันผล ในสัดส่วน 8 หุ้นเก่า ต่อ 1 หุ้นใหม่ พร้อมจ่ายเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.292 บาท กำหนดวันขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 เมษายนที่จะถึงนี้ ก่อนจ่ายเงินในวันที่ 8 พฤษภาคม คิดเป็นมูลค่ารวม หุ้นละ 0.7545 บาท  

สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ค่ายดาโอ (DAOL) คงแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ มีการพิจารณาลูกหนี้ตามความเสี่ยงแล้ว รวมทั้งผลดำเนินงานของบริษัทฯ 3 ปีนี้ (2566-68) น่าจะขยายตัวได้เฉลี่ยสูงระดับ 21% CAGR จากการเติบโตของสินเชื่อเพิ่มปีละ 14% และการเติบโตของรายได้ธุรกิจประกันที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนนายหน้า และการใช้งาน Areegator ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังจะมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ระดับสำรองที่สูง ช่วยบริหารความเสี่ยงจาก NPL ที่เพิ่มขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม การที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์มีความกังวลการตั้งสํารองเพิ่มขึ้น ตาม NPL ที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย credit cost ทําจุดสูงสุดใหม่ สะท้อนให้เห็นความสามารถในการชำระหนี้ที่ยังไม่ดีขึ้น และโอกาสรับรู้ผลขาดทุนจากรถยึดเพิ่มขึ้น จึงเพิ่ม cost to income สูงขึ้นจาก 57% เป็น 59% ทำให้ปรับประมาณการกำไรปีนี้ลงจากเดิม 15% เป็น 4,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 11% ส่งผลให้ราคาเป้าหมายถูกปรับลด จาก 38 บาท เหลือ 32 บาท ตามมา หรือคิดเป็นราคาเป้าหมายใหม่ หลัง XD ที่ 28 บาท

อินโนเวสท์ เอ็กซ์ (InnovestX) คาดกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตจากปีก่อน 19% เป็น 4.339 ล้านบาท สาเหตุจากสินเชื่อ และรายได้ค่านายหน้าประกันภัยเพิ่มขึ้นในอัตราใกล้เคียงกัน ราว 25% แต่แรงกดดันจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ลดลง 0.34% และ credit cost ที่เพิ่มขื้น 0.74% เป็นแตะ 3% และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลงจากการประหยัดต่อขนาดมากขึ้น จึงยังเรทติ้ง “NEUTRAL” และคงราคาเป้าหมายที่ 30 บาท ตามเดิม อิง P/BV ที่ 2.6 เท่า หรือเทียบเท่า P/E ปีนี้ ที่ 17.5 เท่า

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้