3092 จำนวนผู้เข้าชม |
นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย (KS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บมจ. เชฎฐ์ เอเชีย (CHASE) เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 562 ล้านหุ้น (แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 417 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท อาร์เอส มอลล์ ในเครือ บมจ. อาร์เอส (RS) จำนวน 145 ล้านหุ้น) คิดเป็นสัดส่วน 28.3% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 50 สตางค์ ในราคาหุ้นละ 2.90 บาท ระหว่างวันที่ 13 - 15 กุมภาพันธ์นี้ ผ่านบริษัทฯ และผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 3 ราย คือ บมจ. หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (UOBKH) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ประเทศไทย (YUANTA) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASPS) คาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับการกำหนดราคา IPO ที่ 2.90 บาท พิจารณาจากผลสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบันที่แสดงความสนใจจองซื้อหุ้นอย่างท่วมท้น ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ด้วยวิธีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Price to Book Value: P/BV) ณ วันที่ 30 กันยายนปีที่ผ่านมา คิดเป็น P/BV ที่ 2.82 เท่า ถือเป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน อีกทั้งยังเป็นราคาที่มีส่วนลดเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งคำนวณจากราคาปิดต่อหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน อย่าง บมจ. เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) บมจ. ชโย กรุ๊ป (CHAYO) และ บมจ. บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล (KCC) พอสมควร
สำหรับจุดเด่นของ CHASE อยู่ที่การเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มีแผนการเติบโตที่ชัดเจน มีประสบการณ์ในธุรกิจมาอย่างยาวนาน และมีทีมงานที่มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก ช่วยให้บริษัทฯ สามารถติดตามทวงถามหนี้ได้เป็นอย่างดี วัดได้จากผลดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยและค่าบริการ รวมถึงกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้รวมเพิ่มจาก 635.69 ล้านบาท ในปี 2562 เป็น 730.20 ล้านบาท และ 781.07 ล้านบาท ในปี 2563 และปี 2564 ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิเร่งตัวจาก 161.95 ล้านบาท ในปี 2562 เป็น 171.38 ล้านบาท และ 270.88 ล้านบาท ในปี 2563 และปี 2564 ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 25.45% 23.40% และ 34.50% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม รายได้รวมช่วง 9 เดือนแรกปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 516.14 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 518.67 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 33.46% เป็น 121.90 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นเป็นหลัก โดยการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับชำระเงินจากลูกหนี้บางบัญชีซึ่งเป็นลูกหนี้ที่กลุ่มบริษัทฯ รับโอนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 น้อยกว่าที่ประมาณการไว้ ช่วยให้บริษัทฯ ปรับแนวนโยบายการทำธุรกิจมาเน้นความระมัดระวังในการประมาณการกระแสเงินสดของลูกหนี้กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นในระยะยาว เพิ่มความเชื่อมั่นว่า จะเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะกลางและระยะยาว
ขณะที่นายประชา ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHASE ชี้แจงว่า การระดมทุนจะทำให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการทำธุรกิ จได้มากขึ้นกว่าเดิม จากการนำเงินไปลงทุนในระบบดิจิทัลเพื่อปรั บเปลี่ยนธุรกิจให้ทันกับการเปลี่ ยนแปลงในโลกการเงิน และมีเงินทุนเข้าซื้อหนี้ ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิ นมากขึ้น โดยตั้งเป้าลงทุนซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพปีละ 1,000 ล้านบาท เน้นไปที่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกัน (Unsecured Loan) รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อผลักดันให้บริษัทฯ สามารถเดินหน้าขยายธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ ต่อยอดการเติบโตในการให้บริการจัดการหนี้สินครบวงจรให้กับสถาบันการเงิน ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและช่วยเหลือลูกหนี้ สอดรับกับปรัชญาในการทำธุรกิจของบริษัทฯ ที่ยึดหลักการว่า ลูกหนี้ทุกคนต้องการผ่อนชำระ และเคลียร์หนี้สิน อาจต้องการใครสักคน ที่คอยให้คำปรึกษาทางการเงิน ทำให้สไตล์การทำงานมีลักษณะประนีประนอมสูง และยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สถาบันการเงินด้วยอีกทางหนึ่ง